
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม หลังจากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ มีความเห็นไม่เห็นชอบตามมติแพทยสภาที่ตัดสินลงโทษแพทย์ 3 ราย กรณีการรักษาพยาบาล ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ หนึ่งในคณะกรรมการแพทยสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อชี้แจงประเด็นที่ถูกหยิบยกมาทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แพทยสภา ส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษไม่ครบถ้วน
นพ.สมิทธิ์ ยืนยันว่าข้อมูลที่ว่าแพทยสภาส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษไม่ครบถ้วนนั้น ‘ไม่จริง’ แพทยสภาได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับมติแพทยสภา ซึ่งรวมถึงขั้นตอนตั้งแต่ผู้ร้องทำการร้อง หลักฐานที่รวบรวมได้ ความเห็นของอนุกรรมการจริยธรรม อนุกรรมการสอบสวน อนุกรรมการกลั่นกรอง และความเห็นของคณะกรรมการแพทยสภาเอง รวมจำนวน 95 หน้า นอกจากนี้ยังได้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น เวชระเบียน และคำให้การ อีกกว่า 1,500 หน้า ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข้อมูลไปอย่างครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ทีมงานที่แต่งตั้งโดยสภานายกพิเศษได้ขอรายชื่ออนุกรรมการกลั่นกรองและรายงานการประชุมของอนุกรรมการกลั่นกรองเพิ่มเติม ซึ่งแพทยสภาปฏิเสธที่จะให้ เนื่องจากเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับส่วนของมติกรรมการแพทยสภา และไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องการเอกสารดังกล่าว เพราะความเห็นของอนุกรรมการกลั่นกรองก็ได้ระบุอยู่ในมติ 95 หน้าที่ส่งไปแล้ว
นพ.สมิทธิ์ ชี้แจงว่า อนุกรรมการกลั่นกรองไม่ได้มีระบุอยู่ใน พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม แต่เป็นตำแหน่งที่เกิดขึ้นตามข้อบังคับแพทยสภา เพื่อช่วยแพทยสภาในการตรวจสอบคดีก่อนที่แพทยสภาจะมีมติ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วแพทยสภาจะเป็นผู้ชี้ขาด โดยระบุว่า หากพิจารณาเรื่องการลงโทษแพทย์ที่ถูกร้อง ควรเน้นที่ความเห็นของแพทยสภากับหลักฐานในคดีที่แพทยสภาใช้ประกอบความเห็นเท่านั้น เพราะแพทยสภาเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ว่าอนุกรรมการชุดใดจะมีความเห็นอย่างไรก็ตาม
สำหรับ ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการแพทยสภาจะต้องพิจารณามติเรื่องนี้อีกครั้งในการประชุม โดยหากต้องการยืนยันมติเดิม จะต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากคณะกรรมการ เป็นจำนวน 2 ใน 3 ของคณะกรรมการทั้งหมด หรือคิดเป็น 47 เสียง จาก 70 คน ซึ่งหากได้มติ 47 เสียงดังกล่าว จะถือเป็นที่สุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันมีระบบศาลปกครอง คำสั่งของแพทยสภาจึงถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้เสียหายสามารถยื่นขอเพิกถอนคำสั่งได้ โดยให้ศาลปกครองเป็นผู้พิจารณาต่อไป
สำหรับ การประชุมของแพทยสภาจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายนนี้ โดยมีข้อมูลจาก พล.ต.อ. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ว่า ขณะนี้คณะกรรมการแพทยสภาที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 35 คนได้ตอบรับเข้าร่วมประชุมครบแล้ว ส่วนคณะกรรมการที่มาจากตำแหน่งอีก 35 คนยังอยู่ระหว่างรอการตอบรับ แต่คาดว่าคณะกรรมการทั้ง 70 คนจะเข้าร่วมครบองค์ประชุม