ทูต 33 ประเทศขึ้นภูมะเขือเห็นกับตาทุ่นระเบิดที่เก็บกู้ได้อื้อ

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 15.00 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ใกล้เคียง หน่วยปฏิบัติการภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานเก็บกู้และตรวจยึดทุ่นระเบิดรวมถึงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่พบในพื้นที่ โดยมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ผลการเก็บกู้และยึดคืนอาวุธ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากกองพลทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 รายงานสรุปผลการปฏิบัติงานต่อคณะผู้สังเกตการณ์ว่า ที่ผ่านมาเก็บกู้และตรวจยึดทุ่นระเบิดสังหารบุคคลได้แล้ว 46 ทุ่น ในจำนวนนี้มี 16 ทุ่นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังพบทุ่นระเบิดดักรถถัง ลูกจรวดอาร์พีจี และลูกระเบิดขนาด 60 และ 82 มม.

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า แม้จะประกาศหยุดยิงระหว่าง 2 ประเทศมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว แต่ทหารไทยยังคงปฏิบัติภารกิจตรวจค้นในเขตพื้นที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงพบทุ่นระเบิดและยุทโธปกรณ์ของฝ่ายกัมพูชาอยู่เป็นระยะ

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ไม่ลึกจากพื้นดิน และอำพรางด้วยดินและเศษใบไม้ อุปกรณ์ตรวจจับโลหะเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการค้นหา ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เหยียบจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของรองเท้าที่สวมใส่ ส่วนยุทโธปกรณ์ที่ตรวจยึดได้ว่า แม้อาวุธบางส่วนจะดูเก่า แต่ไม่ใช่เป็นอาวุธรุ่นโบราณ เพียงแต่มีสภาพทรุดโทรมจากการเก็บรักษาที่ไม่ดี

หนึ่งในคณะทูตสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงการตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งล่าสุด ได้รับคำตอบว่า เพิ่งพบเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาในพื้นที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ทหารไม่สามารถให้ข้อมูลแหล่งที่มาของยุทโธปกรณ์ที่ตรวจพบได้ เนื่องจากเป็นประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับประเทศที่สาม

สำหรับ ช่วงท้ายของการเยี่ยมชม ทหารเรือสาธิตวิธีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับชม พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศร่วมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน