“อภิชาติ”ชูโมเดลใหม่พัฒนาศก.แพร่ควบคู่การปลูกป่าสู่ความยั่งยืน

นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และอดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า จังหวัดแพร่แม้จะเป็นพื้นที่ที่มีป่ามากที่สุดของประเทศ แต่กลับมีรายได้ประชากรต่อหัวต่ำที่สุดในภาคเหนือ แต่ปัญหาหลักมาจากแนวคิดการบริหารแบบรวมศูนย์ ป่าถูกกำหนดให้เป็นของรัฐ ขณะที่คนในพื้นที่กลับเป็นเพียง “ผู้อาศัย” ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ประสบอุปสรรค ทั้งที่มีทรัพยากรอยู่ตรงหน้า แต่กลับถูกจำกัดด้วยกฎหมายและระเบียบที่ซับซ้อน

ทั้งนี้ คุณภาพชีวิตของคนแพร่ไม่เติบโตเท่าที่ควร ทั้งที่เรารักษาป่าไว้เพื่อคนทั้งประเทศ การนำทรัพยากรออกมาใช้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความร่วมมือทั้งในระดับท้องถิ่นและนานาชาติ

อย่างไรก็ตาม นายอภิชาติได้เดินทางกลับจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าร่วมงาน #JumpStartWoodCity ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับสถานทูตสวีเดน โดยมองว่าโครงการนี้ไม่ใช่เพียงการปลูกต้นไม้หรือส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้ แต่คือ โมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกัน

นายอภิชาติ มั่นใจว่า การนำ “ไม้” ซึ่งเป็นทรัพยากรล้ำค่าของจังหวัด มาเป็นพลังขับเคลื่อน พร้อมกับการเรียนรู้จากบทเรียนสวีเดน และเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต และพิสูจน์ได้ว่า การดูแลป่ากับการพัฒนาเศรษฐกิจสามารถเดินไปด้วยกันได้