กระบี่จัดใหญ่เทศกาลอาหารฮาลาลเวทีแห่งรสชาติ ศรัทธา และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เสียงกลองพาเหรดดังก้องริมแม่น้ำกระบี่ บรรยากาศคึกคักท่ามกลางแสงไฟประดับและผู้คนหลั่งไหลมาที่ ลานประติมากรรมปูดำ จุดแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง ทุกสายตาจับจ้องไปที่ขบวนพาเหรดพหุวัฒนธรรมที่สะท้อนสีสันและความหลากหลายของชาวกระบี่ ทั้งมุสลิม พุทธ และชุมชนพื้นถิ่นที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน นี่คือฉากเปิดม่านของงาน “เทศกาลอาหารฮาลาลจังหวัดกระบี่ (Krabi Halal Food Festival 2025)” ที่ทุกคนรอคอย

ค่ำวันที่ 12 กันยายน 2568 ท้องฟ้ากระบี่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟระยิบระยับ ขณะที่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ก้าวขึ้นสู่เวทีประกาศเปิดงานอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจากหลายประเทศ นักท่องเที่ยว และประชาชนที่แห่มาแน่นริมเขื่อน

ภายในงานคือโลกของอาหารฮาลาลกว่า 80 บูธ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อย ตั้งแต่เมนูพื้นถิ่นอย่าง “แกงแพะ” “ข้าวยำสมุนไพร” ไปจนถึงอาหารฟิวชันสไตล์โมเดิร์น ทุกจานล้วนสะท้อนความใส่ใจในกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างลงตัว

ไฮไลต์ที่ทำให้ผู้คนแตกตื่นคือ “ซุปแกมบิงหม้อใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 3 เมตร ใช้เนื้อแพะถึง 12 ตัว น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม เชฟและทีมงานช่วยกันปรุงอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะตักแจกจ่ายให้ผู้ร่วมงานชิมฟรี เสียงหัวเราะและคำชื่นชมดังไม่ขาดสาย

นอกจากการกินดื่ม ยังมีเวทีเสวนาและการสาธิตอาหารฮาลาลโดยเชฟจากครัวการบินไทย การแสดงอนาชีดอันไพเราะของเยาวชนกระบี่ รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสหัวใจของความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

นายอังกูร ศีลาเทวากูล กล่าวบนเวทีว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแค่การชวนชิมอาหารฮาลาล แต่ยังเป็นการนำเสนอคุณค่าของวัฒนธรรมอิสลาม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิถีชีวิตที่สะท้อนความสะอาด ปลอดภัย และความงดงามทางจริยธรรม “นี่คือจุดแข็งที่ทำให้กระบี่พร้อมจะก้าวสู่ศูนย์กลางอาหารฮาลาลระดับสากล และเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน”

ตลอด 3 วันของการจัดงาน คาดว่าจะมีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เดินทางมาเที่ยวชมและลิ้มรสอาหารฮาลาล สร้างสีสันและรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนจำนวนมาก

และนี่เองคือเสน่ห์ของ Krabi Halal Food Festival 2025 ที่ไม่เพียงมอบรสชาติความอร่อย หากยังสะท้อน “พลังของวัฒนธรรม” ที่เชื่อมผู้คนต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวิถีชีวิต ให้มาเจอกันด้วยหัวใจเดียวกัน — หัวใจที่รักในความงามของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ