
แสงเทียนนับพันเล่มส่องสว่างยามค่ำคืน เสียงสวดมนต์ขานรับกึกก้องท้องฟ้า และพลังศรัทธาจากผู้คนที่หลั่งไหลมาเนืองแน่นรอบองค์พระธาตุพนม… ทั้งหมดนี้คือภาพของ “วันสัตตนาคารำลึก” หรือที่หลายคนเรียกว่า “วันรวมพญานาค” พิธีศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นทุกปี ก่อนวันออกพรรษา เพื่อบูชาพญานาคทั้ง 7 ตน ผู้ถูกเชื่อว่าเป็นผู้ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนม บรมเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 2,500 ปี
ตลอดทั้งวัน–ค่ำ ผู้ศรัทธาจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นสายมู สายบุญ หรือผู้ที่นับถือพญานาคในฐานะ “ผู้คุ้มครองลูกหลาน” ต่างพร้อมใจกันนำ เครื่องบวงสรวงอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ พานบายศรียักษ์ ทำจากใบตองสดและดอกไม้ มูลค่าหลักแสนถึงหลักล้านบาท มาถวายเป็นพุทธบูชา เชื่อกันว่าการได้ร่วมพิธีในครั้งนี้ จะเสริมบุญบารมี เกื้อหนุนชีวิตให้สุขสมบูรณ์
ไฮไลต์สำคัญคือ รำบวงสรวงพญานาค จากนางรำสาวงามเกือบ 1,000 คน ที่พร้อมเพรียงกันก้าวเท้าในท่วงท่าละเมียดละไม ราวกับเสียงฆ้องกลองและบทเพลงกำลังเปิดประตูสู่โลกแห่งตำนาน

🔮 ปาฏิหาริย์ปี 2500 จุดกำเนิดศรัทธา
ตำนานวันสัตตนาคารำลึก ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2500 ท่ามกลางค่ำคืนฝนตกหนัก ชาวบ้านต่างตกตะลึง เมื่อเห็น แสงประหลาดเจ็ดสี ขนาดใหญ่เท่าต้นตาล พุ่งเข้าสู่องค์พระธาตุพนม ต่อมา “สามเณรทรัพย์” ลูกวัดพระธาตุพนม ได้ถูก พญานาคประทับทรง และเผยว่า แสงที่เห็นนั้นคือ “พญานาคทั้ง 7 ตน” ที่ลงมารักษาองค์พระธาตุพนม ปกป้องไม่ให้ใครอ้างชื่อไปในทางเสื่อมเสีย อีกทั้งยังโปรดให้ชาวบ้านมีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง
จากเหตุการณ์นั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีบวงสรวงที่สืบทอดต่อมาไม่ขาดสาย และยิ่งวันยิ่งทวีความศรัทธา

🌿 อานิสงส์แห่งศรัทธา
ผู้คนต่างเชื่อว่า การได้มาร่วมพิธี ถวายเครื่องสักการะพญานาค จะได้รับพรอันยิ่งใหญ่ ทั้งความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน ความรัก สุขภาพแข็งแรง และครอบครัวร่มเย็น ด้วยเหตุนี้เอง พานบายศรีพญานาคแต่ละปีจึงมีมูลค่าตั้งแต่ 5 แสน–1 ล้านบาท เพราะมิใช่เพียงของบูชา แต่เป็น การฝากชีวิตและโชคชะตาไว้กับพญานาค

🌟 ศรัทธาไม่เคยมอดดับ
“วันสัตตนาคารำลึก” จึงไม่ใช่แค่พิธีกรรม หากแต่เป็น สะพานเชื่อมระหว่างคนรุ่นใหม่กับตำนานโบราณ เป็นแรงศรัทธาที่รวมพลังผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เดินทางมาที่พระธาตุพนมทุกปี นอกจากเสริมสิริมงคล ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรม กระตุ้นการท่องเที่ยวสายมู และตอกย้ำว่า พญานาคยังคงเป็นผู้พิทักษ์แห่งศรัทธา ที่ไม่เคยหายไปจากหัวใจของผู้คน
เรื่อง/ภาพ : นายพัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
