
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ หลังการประชุมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา
ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า การลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 303/2568 ซึ่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน กำกับดูแลจังหวัดทั่วประเทศ โดยตนได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบนทั้งหมด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน รวมถึงพื้นที่ชายแดนภาคใต้บางส่วน

พร้อมยกตัวอย่างว่า ในรัฐบาลชุดก่อนก็มีการมอบหมายลักษณะนี้เช่นกัน เช่น ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ก็ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลจังหวัดน่านและแพร่ และได้ลงพื้นที่ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
“บางท่านทุกวันนี้เป็นรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีจากโควต้าต่าง ๆ จึงไม่เข้าใจว่าหน้าที่ต้องมอบนโยบายต่อพื้นที่อย่างไร ถ้านายกฯ มอบแล้วไม่ทำต่อ ประเทศจะบริหารได้อย่างไร เพราะหน้าที่ของรองนายกฯ คือการประสานและขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลให้เกิดผลในแต่ละจังหวัดที่ได้รับมอบหมายมา” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า การเป็นผู้บริหารที่ดีต้องให้เกียรติผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดในพื้นที่ เพราะแต่ละจังหวัดมีโครงสร้างการบริหารชัดเจน “เราต้องเคารพระบบ นี่คือแนวทางของประเทศที่เจริญแล้ว” ร.อ.ยังกล่าวทิ้งท้ายระหว่างการลงพื้นที่นนทบุรีว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม โรงเรียนหลายแห่งได้รับผลกระทบ และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ ตนสามารถสั่งการปลัดกระทรวงหรือกรมชลประทานได้ทันที เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนโดยไม่ต้องรอขั้นตอนล่าช้า
“คุณโปรดฟังให้ชัดก่อนจะเอาไปขยายความ เรามาจังหวัดนนทบุรีวันนี้เพราะพี่น้องเดือดร้อนจากอุทกภัย โรงเรียนหลายแห่งได้รับผลกระทบ สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ ผมสั่งการได้เลย เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนคลี่คลายโดยเร็ว” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำ


