“ชัชชาติ”นำผู้บริหารหารือผบ.ตร.บูรณาการทำงานร่วมกัน 4 ด้านหลัก 3 เรื่องเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อหารือบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมี นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายภิมุข สิมะโรจน์ เลาขานุการผู้ว่าฯกทม. ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศรียานนท์ อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้มีการหารือใน 2 ประเด็นหลัก ๆ คือ เรื่องการทำงานร่วมกัน ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานร่วมกันใน 4 ด้าน ด้านที่ 1 คณะทำงานโครงการ Smart City Zone ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการมาแล้ว 3 รุ่น และจะทำการขยายพื้นที่ปลอดภัย โดย กทม. จะร่วมมือในด้านการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ทำป้ายบอกทาง ทำทางเท้าให้ดี และบูรณาการกล้อง CCTV เพื่อให้ Smart City Zone กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร ด้านที่ 2 คณะทำงานด้านยาเสพติด ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ ทั้ง 2 หน่วยได้ประสานการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยทาง กทม. รับผิดชอบด้านการบำบัด การดูแลผู้ป่วย รวมทั้งข้อมูลในชุมชน ส่วนตำรวจรับผิดชอบการข่าวและการจับกุม

ทั้งนี้ ทั้ง 2 ส่วนจะตั้งคณะทำงานร่วมกันคัดเลือกชุมชนตัวอย่างในแต่ละเขต ที่พัฒนาต่อต้านยาเสพติด ปรับผู้ป่วยให้ผู้เสพแล้วทำการรักษา และขยายผลให้ครบทุกเขต ด้านที่ 3 คณะทำงานเรื่องการจราจร ซึ่งมี 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ความปลอดภัยด้านการจราจร 2.การจราจรติดขัด และ 3.การนำเทคโนโลยีมาใช้ระบบ Intelligent Traffic Management System (ITMS) ด้านที่ 4 คณะทำงานด้านโซนนิ่ง (Zoning) ของสถานบริการ ปัจจุบันกฎหมายส่วนหนึ่งเป็นกฎหมายที่เก่าบางครั้งไม่ตอบโจทย์ ปัจจุบันสภาพเมืองเปลี่ยนไป ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสภาพการบังคับใช้ คณะทำงานอาจจะร่วมกันศึกษาเรื่องโซนนิ่งให้ตอบโจทย์ และเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณาต่อไป

ขณะที่ เรื่องเร่งด่วนมีอยู่ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือการประชุมเอเปก ซึ่งกทม. เป็นเจ้าของพื้นที่ต้องมีการบริหารจัดการพื้นที่สวนเบญจกิตติ การอบรมพนักงานกวาด พนักงานเก็บขยะ เจ้าหน้าที่เทศกิจในการช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าที่ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนกล้อง CCTV เพิ่มในส่วนจุดที่เป็นฟันหลอ เรื่องที่ 2 คือการอบรมนักเรียนเรื่องแอคทีฟชู้ตเตอร์ (Ative Shooter) กรณีเกิดมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ซึ่งจะขยายผลไปในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 437 แห่ง รวมทั้งการให้ความรู้เรื่องการ CPR และความรู้ที่มีความจำเป็นต่าง ๆ ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายในภาคการศึกษานี้ เรื่องที่ 3 เรื่องปัญหาการจราจร ซึ่งที่ผ่านมามีคณะทำงานแล้วมีการศึกษา 270 จุด ซึ่งเป็นจุดฝืด และการฝ่าฝืนการจราจร จะมีการรณรงค์แก้ไขปัญหาการจราจร วินัยการจราจร และแก้ไขจุดฝืดอย่างจริงจัง คาดว่าจะเริ่มภายในเดือนนี้

Message us