
เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่อาคารรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดย คณะทำงานดำเนินการขับเคลื่อนสู่การเป็นสำนักงานสีเขียว (Green Parliament) และดำเนินการตามแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤติ (BCM) สำนักรายงานการประชุมและชวเลข ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมสื่อสารรณรงค์ “CAR FREE DAY ลดใช้รถ ลดมลพิษ ลดโรคเสี่ยง” เชิญชวน สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการรัฐสภา และสื่อมวลชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งลดการใช้รถ เพื่อลดมลพิษทางอากาศที่เป็นภัยเงียบคุกคามสุขภาพคนไทย พร้อมเชิญชวนถ่ายรูปเซลฟี่รณรงค์ “CAR FREE DAY ลดใช้รถ ลดมลพิษ ลดโรคเสี่ยง” โพสต์ลงใน Facebook ติด #CAR FREE DAY DAY #ลดใช้รถลดมลพิษลดโรคเสี่ยง #รัฐสภา #สสส.


ฃนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันปลอดรถ หรือ Car Free Day ตรงกับวันที่ 22 กันยายนของทุกปี องค์กรในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้รถขนส่งมวลชน เดิน และรถจักรยานเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณรถยนต์บนถนน อันส่งผลถึงการลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ และยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น ซึ่งคณะกรรมาธิการฯสนับสนุนการลดการใช้รถ เพราะเมื่อเราลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ถึง 3 เท่า อย่างไรก็ตามยังมีกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.การจัดการขยะ และ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อผลักดันออกมาบังคับใช้เช่นเดียวกัน และพร้อมสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ที่ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดกิจกรรม “CAR FREE DAY ลดใช้รถ ลดมลพิษ ลดโรคเสี่ยง” ซึ่งเราต้องยอมรับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้ และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและยั่งยืนต่อไป

นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยกำลังจะมี พ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและคาดว่าจะผ่านได้ในสมัยประชุมสภานี้ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป และจะมีผลบังคับใช้ในเวลาอีกไม่นาน สำหรับสาระสำคัญของพ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดนั้น เป็นกฎหมายฉบับใหม่ของไทยเพื่อจัดการปัญหาคุณภาพอากาศอย่างบูรณาการ โดยการรับรองสิทธิของประชาชนในการหายใจอากาศที่สะอาด การกำหนดกลไกการบริหารจัดการแบบครบวงจร ผ่านคณะกรรมการระดับชาติ จังหวัด และพื้นที่เฉพาะ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่างๆ เช่น ยานพาหนะ โรงงาน และการเผาในที่โล่ง รวมถึงการใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เช่น ภาษี และการกำหนดสิทธิการปล่อยมลพิษเพื่อจูงใจให้ลดการปล่อยมลพิษ.

ด้าน นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมกันรณรงค์วันปลอดรถสากล วันที่ 22 กันยาของทุกปี มาร่วมกันลดการใช้รถยนต์คือหากครอบครัวจําเป็นต้องออกจากบ้านก็ขอให้รวมกันอยู่ในรถคันเดียว หรือหันมาเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะเพื่อลดมลพิษให้กับโลก อย่างน้อยหนึ่งวันก็สามารถลดมลพิษให้กับโลกได้ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้มีอากาศสะอาดไว้หายใจ และสภาผู้แทนราษฎรจะเร่งผลักดัน พ.ร.บ.การจัดการอากาศสะอาดผ่านสภาฯโดยเร็ว พร้อมกันนี้ขอสนับสนุนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สสส.รณรงค์การลดใช้รถลดมลพิษลดโรคเสี่ยง ซึ่งตนเชื่อว่า สสส.เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านสุขภาพ มีความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างสื่อรณรงค์ใหม่ๆ สร้างสื่อประชาสัมพันธ์ที่ทันสมัย และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเชิญชวนให้ประชนชนทุกคนมาช่วยกันลดมลพิษทางอากาศ ทั้งในโรงเรียน ที่ทำงาน และบ้านเรือน เพื่อเป้าหมายคนไทยทุกคนมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายชิบ จิตนิยม รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวว่า การลดใช้รถแค่ปีละหนึ่งวันเป็นการช่วยกันอนุรักษ์โลกนี้ให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น คนที่ไม่เจอกับตัวเองอาจจะไม่ซาบซึ้งเท่ากับตนเองที่มีความหมายอย่างยิ่ง วันนี้ภรรยาของผมป่วยโรคมะเร็งปอด แน่นอนว่าเราไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่ทุกคนยืนยันเหมือนกันก็คือว่า มลพิษทางอากาศ หรือ ฝุ่น PM 2.5 และสิ่งแวดล้อมเป็นมลพิษ เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เราควรตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่ควรมีความใสสะอาด มีอากาศที่บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่เราต้องการ อยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสําคัญช่วยกันลดมลพิษลดจากการใช้รถยนต์ เรื่องคาร์ฟรีเดย์เป็นเทรนด์ของโลก มลพิษจากสิ่งแวดล้อมเป็นอันตรายสร้างความเจ็บปวดสําหรับคนที่ทนทุกข์ทรมานกับเรื่องโรคมะเร็ง หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้อากาศไม่สะอาด

ทั้งนี้ น่าเสียดายคือประเทศไทยเราเป็นหนึ่งในประเทศในอาเซียนที่ปล่อยมลพิษฝุ่น PM 2.5 มากสุดในอาเซียน การใช้รถในประเทศไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีมลพิษที่ปล่อยในอากาศเพิ่มขึ้นถึง 4.7 % ต่อปี เป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเราต้องมาร่วมมือกัน ขอบคุณ สสส.ที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พยายามที่จะรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม แม้แต่รัฐสภาเองก็พยายามรณรงค์ให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม มีโครงการหลากหลายที่จะทำให้เป็นรัฐสภาเป็นองค์กรสีเขียว ลดการใช้ขยะพลาสติก ลดการใช้พลังงาน และถ้าสมาชิกรัฐสภาช่วยพิจารณาให้ความเห็นชอบ พ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดมาบังคับใช้โดยเร็ว ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งที่รัฐสภาเป็นองค์ต้นแบบตัวอย่างที่ดี ที่เห็นความสำคัญของการลดมลพิษสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน


