สว.มณีรัตน์ จี้ ป.ป.ช.ทบทวนกลไกต้านโกงตั้งคำถามปม หลักสูตรต้านทุจริต-ความล่าช้าคดี

น.ส.มณีรัตน์ เขมะวงค์ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม SME จังหวัดเชียงราย ได้อภิปรายรายงานประจำปี 2567 ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องกันในการบังคับใช้ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ที่ ป.ป.ช. ได้จัดทำขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้หลักสูตรนี้จะมีเจตนาดีเพื่อปลูกฝังจิตสำนึก แต่กลับขาดสภาพบังคับที่ชัดเจน ทำให้หน่วยงานบางแห่งนำไปใช้อย่างจริงจัง ขณะที่บางแห่งยังคงละเลย ส่งผลให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงาน

“ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักสูตร ป.ป.ช. มีมาตรการอย่างไรในการสนับสนุนให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจนำหลักสูตรไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรี และมีแนวทางอย่างไรในการขับเคลื่อนและติดตามผลการนำหลักสูตรไปใช้” ส.ว.มณีรัตน์กล่าว

น.ส.มณีรัตน์ ยังตั้งข้อสังเกตต่อการดำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะประเด็น ความล่าช้าของคดี แม้ว่า ป.ป.ช. จะมีหลักการที่ชัดเจนในการทำงานให้รวดเร็วและโปร่งใสเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แต่การตรวจสอบเบื้องต้นตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กลับยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งขัดกับพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ที่กำหนดให้ทุกหน่วยงานต้องมีกรอบเวลาที่แน่นอน

น.ส.มณีรัตน์ ตั้งคำถามถึงความจริงจังของ ป.ป.ช. ในการยึดหลัก “ความยุติธรรมต้องไม่ล่าช้า” โดยถามถึงการแจ้งความคืบหน้าของคดีให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบ และจำนวนคดีที่เกินกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งแนวทางการจัดการคดีค้างเก่า ที่สำคัญคือคดีที่มีอายุความเกิน 4 ปี เกิดจากปัญหาใด และมีการแจ้งเหตุผลความล่าช้าให้คู่กรณีทราบหรือไม่

ทั้งนี้ ควรมีการบัญญัติกฎหมายเพื่อสร้างกลไกในการควบคุมระยะเวลาการไต่สวน และกำหนดให้มีการรายงานสถานะของคดีให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การดำเนินงานของ ป.ป.ช. สอดคล้องกับหลักการที่ได้ประกาศไว้ในรายงานประจำปีอย่างแท้จริง