เปิดปฎิบัติการ”ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์”หยุดขบวนการจัดหาบัญชีม้า

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. ร่วมแถลงผลกองปราบฯเปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” จับกุมขบวนการรับฟอกเงินธุรกิจสีเทา ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ผู้ร่วมขบวนการเว็บพนันออนไลน์ Crown 168 จำนวน 14 ราย ยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) 685 บัญชี บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่นๆกว่า 1,000 รายการ กลุ่มที่ 2 ผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้า 20 ราย จับได้ 14 ราย ยึดแท็บเล็ตที่ใช้จัดหาบัญชีม้า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสมุดบัญชีบางส่วน กลุ่มที่ 3 ผู้ร่วมขบวนการฟอกเงินธุรกิจสีเทา 38 ราย จับแล้ว 36 ราย ยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ รวมมูลค่ากว่า 31 ล้านบาท และของกลางอื่นๆหลายรายการ รวมทั้งอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคลที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัทกว่า 25 ล้านบาท รวมออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 72 หมาย จับได้แล้ว 64 ราย หลบหนี 8 ราย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ช่วงต้นปี 67 ตำรวจ กก.1 บก.ป.จับกุมเว็บไซต์พนันออนไลน์ Crown 168 จัดให้มีการเล่นพนันในลักษณะกาสิโนออนไลน์ ตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ตรวจยึด พบว่ามีบัญชีธนาคารนิติบุคคลหรือบริษัทรวมอยู่ด้วย เมื่อนำมาตรวจสอบข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือศูนย์ AOC (Anti Online Scam Operation Center) พบว่าถูกนำมาใช้เป็นบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงลักษณะต่างๆหลายคดีเช่น หลอกให้กู้เงิน, หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้เสริม, หลอกให้ติดตั้งโปรแกรมเพื่อควบคุมโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย, หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล เป็นต้น

ต่อมาสืบสวนขยายผลตรวจสอบที่มาของบัญชีธนาคารและซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจยึดทราบว่าบัญชีธนาคารต่างๆได้มาจากกลุ่มบุคคลรวมตัวกันเป็นขบวนการมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน มีการสั่งการผ่านกลุ่มไลน์ ให้ค่าตอบแทน กับผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารเป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท ส่วนสมาชิกในขบวนการจะได้ “ค่าหัวคิว” หากคนใดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารได้มาก จะได้ค่าตอบแทนมากขึ้นตามลำดับ เมื่อได้บัญชีธนาคารพร้อมใช้งานมาแล้ว จะนำบัญชีธนาคารที่ได้มาไปใช้เป็นบัญชีรับเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นบัญชีรับโอน-จ่ายให้เว็บพนัน และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือพบว่ามีกลุ่มไลน์เกี่ยวกับการจัดหาบุคคลมาเปิดบัญชี, การจ่ายเงินค่าตอบแทน, แก้ไขสแกนใบหน้า 19 กลุ่มไลน์ และยังพบข้อมูลสถานที่ส่งบัญชีม้าอีก 17 จุดทั่วประเทศ ต้องขอขอบคุณ บช.ก.ที่ทำงานด้วยดีมาตลอดตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ สำหรับ การเปิดปฏิบัติการมาทั้ง 3 ครั้ง ต้องมีครั้งที่ 4 และมีอีกต่อๆไป เพื่อให้ขบวนการเหล่านี้หมดไปให้ได้มากที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังสืบสวนขยายผลบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคลหรือบริษัทที่ตรวจยึดมาได้ พบเส้นทางการเงินต้องสงสัยเชื่อมโยงไปยังบัญชีธนาคารบริษัทจีเอ็นฯ ตั้งขึ้นมาเพื่อฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊งค้ายาเสพติด และเว็บพนันออนไลน์ ตรวจสอบพบภายในระยะเวลา 1 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 800 ล้านบาท บริษัทคิดค่าตอบแทน 3% ต่อยอดเงินที่กลุ่มธุรกิจสีเทานำมาฟอก หากกลุ่มธุรกิจสีเทาต้องการ ฟอกเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีจะมีค่าตอบแทนเป็น % ตามค่าเงินเหรียญ USDT ของวันนั้นๆ

จากแนวทางสืบสวนพบว่าตัวหลักของบริษัทนี้คือ “บอสตั้ม” เป็นทนายความ ได้ออกหมายจับแล้ว ขณะนี้หนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งยังมีกลุ่มนิติบุคคลรับจ้างฟอกเงินให้กลุ่มธุรกิจสีเทาอีกหลายกลุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.จะสืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายที่เหลือเพื่อตัดตอน และแก้ปัญหาบัญชีม้าที่กำลังระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป