
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 6 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม โดย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คณะกรรมการ นปถ. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพฯ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ครั้งที่ 2/2568 ในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2569 โดยกำหนดแนวทางดำเนินการในช่วงปีใหม่ วันที่ 30 ธ.ค. 68 – 5 ม.ค. 69 และเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 10 – 16 เม.ย. 69 โดยมีมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการ ได้แก่ 1. ด้านบริหารจัดการ 2. ด้านการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม 3. ด้านการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ 4. ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และ5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ

รวมถึงได้พิจารณาเห็นชอบ การขับเคลื่อน “ปฏิญญามาร์ราเกซ” (Marrakech Declaration) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประสานดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลัง เพื่อนำปริญญาดังกล่าวไปเป็นแนวทางดำเนินการร่วมกัน เพื่อบรรลุตามที่ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายไว้

นอกจากนี้ นายศักดิ์ดา ยังได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ “วันที่ 21 มกราคม วันปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ในทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อสร้างตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในห้วง 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลวันปีใหม่ 2569 นี้ ขอให้ทุกจังหวัดกำชับกวดขันผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เข้มงวดดื่มไม่ขับ โดยให้ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อสม. ช่วยกันสร้างความรับรู้และตระหนัก ในเรื่องดื่มไม่ขับ เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้
.