
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธี เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด ว่า สำหรับปัญหายาเสพติด ตนพร้อมที่จะคาดโทษตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง รวมถึงตำรวจ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับผลงานในการปราบปรามยาเสพติด วันนี้ถือว่าเป็นการให้การบ้านให้ทุกระดับปฏิบัติตาม โดยเฉพาะ ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งการบ้านที่ให้เพิ่มเติมไป ให้สามารถดำเนินการได้เลย เพราะที่ผ่านมามีบางพื้นที่เริ่มปฏิบัติการไปแล้ว ช่วงนี้เป็นเหมือนการตรวจการบ้าน จะให้พลังของประชาชนเป็นตัวชี้วัดผลสำเร็จ โดยทาง ป.ป.ส. มีมาตรฐานในการวัดอยู่แล้ว จึงเป็นการเน้นย้ำการตรวจการบ้านในภาคประชาชน
ทั้งนี้ ไม่ว่าตัวเลขจะดีอย่างไร แต่ถ้าหาก ประชาชนไม่สามารถรับรู้ได้แปลว่าพื้นที่นั้นมีปัญหา จำเป็นต้องลงไปตรวจสอบดูว่า แต่ละพื้นที่มีปัญหาอะไร ถ้าเป็นระดับอำเภอ นายอำเภอต้องรับผิดชอบ และผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการจังหวัดต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าพื้นที่ไหนมีปัญหามาก ในระดับภาคผู้บัญชาการตำรวจภูธรในภาคนั้น ๆ ก็จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งจะมีการพิจารณาตามลำดับ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร แต่เป็นการขอความร่วมมือ แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติด ที่จะต้องแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งกำลังสำคัญก็คือภาคประชาชนด้วย และข้าราชการก็ต้องตื่นตัวจริงจังในการปราบปรามยาเสพติด ส่วนที่บอกว่าปัญหายาเสพติด 100% จะหายไปภายใน 3เดือน นายภูมิธรรม บอกว่า จะต้องทำให้เต็มที่อย่างสุดความสามารถ และต้องดูตามบริบทพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเราไม่อยากเห็นใครเอายาเสพติดมาพูดกันในสังคมไทย
นายภูมิธรรม ย้ำว่าแนวทางการปราบปรามยาเสพติด ตอนนี้ก็ดุเดือดจริงจังไม่แพ้กับในอดีต พอเป็นปัญหาที่ทำลายสังคมไทย พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการช่วยการตรวจสอบ เป็นตาสัปปะรด ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือกัน เชื่อว่าภายใน 3 เดือน จะสามารถวัดความชัดเจนว่าพื้นที่ไหนสามารถทำได้ หรือทำไม่ได้ หากทำไม่ได้ก็ต้องมีเหตุผลมาชี้แจงว่าเป็นเพราะเหตุใด เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานที่เข้มข้นมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ปัญหายาเสพติดยังเป็นปัญหาหลักที่ควบคู่กับหนี้นอกระบบ ดังนั้น 2 เรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหา ที่มีความผูกพันด้วยเหตุเดียวกัน ต้องปราบปรามผู้มีอิทธิพลควบคู่ไปด้วย