
จากกรณีเงิน วัดเครือวัลย์ วรวิหาร หายไปกว่า 65 ล้านบาท โดยมีการปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส เพื่อเบิกถอนเงินออกจากบัญชีวัด ล่าสุด เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร และตัวแทนธนาคาร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนั้น
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม วัดเครือวัลย์วรวิหาร กรุงเทพฯ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า
กรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ของวัดเครือวัลย์ โดยอดีตไวยาวัจกรกับพวกฯ ปรากฏทางสื่อต่าง ๆ นั้น ขอแจ้งให้พุทธบริษัทวัดเครือวัลย์และสาธารณชนทราบข้อเท็จจริง ดังนี้
1.เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และวัดเครือวัลย์ ได้มีคำสั่งให้นายกฤษณ์ อดีตไวยาวัจกร พ้นจากตำแหน่ง รวมถึงนายชัยณรงค์ ที่อ้างตนเองเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรให้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานเอกสารธรการวัดเครือวัลย์ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
2.ขอแจ้งว่า พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของผู้มีรายนามข้างต้น ประกอบด้วยการปลอมแปลงเอกสาร แสดงเอกสารอันเป็นเท็จต่อบุคคลภายนอก และการฉ้อโกง ซึ่งเป็นการกระทำความผิดโดยที่วัดเครือวัลย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
3.ในทันทีที่วัดเครือวัลย์ ได้ทราบพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดข้างต้น ได้แจ้งความดำเนินคดีไปโดยไม่ล่าช้าตั้งแต่ พ.ศ.2567 แล้ว ขณะนี้อยู่ในชั้นเจ้าพนักงานตำรวจ และอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งวัดเครือวัลย์ ได้ให้ความร่วมมือต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอย่างเต็มที่
4.โดยความอนุเคราะห์ของเจ้าพนักงานตำรวจ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด ตลอดจนบุคคลผู้เกี่ยวข้องได้ และอยู่ระหว่างติดตามทรัพย์สินที่ถูกทุจริตคืนจนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป
เจ้าอาวาสได้แต่งตั้งคณะไวยาวัจกรชุดใหม่เพื่อปฏิบัติหน้าที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย พุทธศิลปสถาปัตย์ การเงินบัญชี เป็นต้น เพื่อปฏิบัติหน้าที่และกลันกรองเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยรัดกุม รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มกำลังต่อไป
ทั้งนี้สื่อมวลชนที่สนใจในรายละเอียดเท่าที่สามารถเปิดเผยได้โดยไม่เสียรูปคดี สามารถติดต่อ สอบถามกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานอัยการคดีอาญาตลิ่งชันซึ่งอยู่ระหว่างการรับผิดชอบคดี
12 สิงหาคม 2568
