เมื่อวันที่ 17 ก.คง ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) ได้นำตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอลฟ์ มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นเวลา 12 วันในคดีเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินให้ 3.8 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินจากบัญชีของวัด
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิจารณาคำร้องเเล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังมีกำหนด 12 วัน ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนค้านประกันตัว เนื่องจากคดีมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก จึงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยวันนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวน.ส.วิลาวัล ไปควบคุมทัณฑสถานหญิงกลางระหว่างฝากขังต่อไป
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เผยถึงการสอบปากคำ สีกากอล์ฟ ว่า ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับสีกากอล์ฟไป 2 ข้อหา คือข้อหารีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งสีกากอล์ฟให้การปฏิเสธ ส่วนประเด็นเรื่องเงินที่ตำรวจกล่าวหาว่าขู่เอาเงินจากทิดแหล่ ถ้าไม่ให้เงินจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์แล้วจะทำให้ถูกปลด ทางสีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้ขู่แบล็กเมลเพื่อเอาเงิน เพียงแค่ขอยืมไปจ่ายค่าเช่ารถ สำหรับ ข้อกล่าวหา เรื่องทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ที่ให้ทิดแหล่ เขียนร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์นั้น สีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้บังคับให้เขียนร่างหนังสือ แค่ขอให้ช่วยเฉย ๆ ขณะเดียวกัน สีกากอล์ฟยังให้การถึงเรื่องของความสัมพันธ์กับพระรูปต่าง ๆ อีกด้วย
พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนข้อหาฉ้อโกง ที่กองบังคับการปราบปรามเข้ามารับผิดชอบอีก 1 คดีคือ คดีของอดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะหากแจ้งแล้วต้องผัดฟ้อง ก็จะทำให้เวลาทำงานน้อย ดังนั้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้ 70-80% ก่อนไปแจ้งข้อหาในภายหลัง เพื่อให้พยานหลักฐานเกิดความสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งนี้ ตลอดการสอบปากคำ สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และประเด็นประกอบต่าง ๆ
พ.ต.อ.เอนก ยังกล่าวถึงแผนประทุษกรรมของสีกากอล์ฟด้วยว่า จากการวิเคราะห์ พบว่าสีกากอล์ฟดำรงชีพอยู่ได้ด้วยจากเงินของพระทั้งหมด ส่วนการไปติดต่อกับอดีตพระผู้ใหญ่ เพราะสีกากอล์ฟมีเจตนามุ่งที่จะสนใจในเรื่องทรัพย์สินของพระ ด้วยการมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง เพราะอาจจะเคยเห็นเส้นเรื่องเดิมจากเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรที่ดูแลสีกากอล์ฟเรื่องทรัพย์สินเงินทองได้ ดังนั้นจึงเห็นช่องทาง ทำให้สีกากอล์ฟเข้าไปติดต่อตามวัดดัง ๆ เพื่อต้องการเข้าหาเจ้าอาวาส เพราะจะได้มีโอกาศหาเงินทองมาดูแลเขาได้ ซึ่งตามพฤติการณ์จะเห็นว่า สีกากอล์ฟ เช่าบ้านหรูเดือนละ 30,000-40,000 บาท และเวลาเข้าวัดก็จะเช่ารถยนต์หรู ๆ ไป ดังนั้นเมื่อเวลาไปติดต่อกับพระรูปต่าง ๆ ก็จะทำให้ดูเหมือนคนมีเงิน ส่งภาพลักษณ์ที่ดี
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาจะทำเพียงคนเดียวหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า จากพฤติการณ์ยังพบว่าทำเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ หรือคนร่วมรับผลประโยชน์ด้วย เพราะสีกากอล์ฟเห็นช่องทางของการได้มา หากไปคบแค่คนธรรมดาก็อาจจะยากที่จะได้เงินมาแบบนี้ แต่เพราะพระผู้ใหญ่มีจุดอ่อนและมีเงิน เขาจึงมองมุมนี้และให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง โดยวิธีเข้าหา ก็มีทุกวิถีทางที่จะเข้าถึงตัวพระผู้ใหญ่ได้ อย่างกรณีของวัดโสธร ก็ต้องการจะหาทางเข้าถึงตัวเจ้าอาวาส ซึ่งถ้าเจ้าอาวาสจิตใจไม่นิ่งก็อาจจะเผลอได้ ส่วนกรณีของอดีตพระมหาบุญเลิศ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายแป้น ยังไม่ได้มีการมาแจ้งความ หลังเข้ามาให้ปากคำกับ ปปป.ไปก่อนหน้านี้แล้ว