
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา จ.สระแก้ว ณ เวลา 18.00 น. พบว่าพื้นที่ยังคงสงบเรียบร้อย โดยฝ่ายไทยได้เสริมมาตรการรักษาความมั่นคง พร้อมซักซ้อมแผนอพยพประชาชนจาก 4 อำเภอชายแดน และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 10 แห่ง รองรับได้กว่า 4,200 คน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับทุกสถานการณ์

ตลอดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้ดำเนินปฏิบัติการจิตวิทยาโดยฉายสารคดี “แคมป์ 511” ผ่านเครื่องเสียงในพื้นที่ชายแดน เพื่อเผยแพร่เรื่องราวประวัติศาสตร์การรับผู้อพยพชาวกัมพูชาหนีสงครามเข้าสู่ไทยในอดีต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการฝ่ายพลเรือน ขณะเดียวกันได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และประชาชนฝั่งกัมพูชาในพื้นที่บ้านโจกเจยและบ้านเปรยจัน มีการรวมตัวและตั้งเวรยามเฝ้าระวัง แต่โดยภาพรวมสถานการณ์ยังคงปกติ ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

ด้านภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิด กองกำลังบูรพา ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ได้เข้าสู่วันที่ 3 ของการปฏิบัติการในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยใช้กำลังพล 7 ชุด พร้อมยุทโธปกรณ์พิเศษ เช่น รถถากถางหุ้มเกราะ D5 เครื่องจักร GCS-200 และรถ BearCat สำหรับสนับสนุนการกวาดล้าง ผลการตรวจสอบพบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเพิ่มอีก 2 ทุ่น ได้แก่ชนิด MN79 จำนวน 1 ทุ่น และชนิด PMN จำนวน 1 ทุ่น รวมผลตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา พบแล้ว 7 ทุ่น ซึ่งทั้งหมดเป็นทุ่นระเบิดเก่า

ภารกิจวันนี้ยังได้ใช้รถถากถางเคลียร์พื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร และรื้อถอนเพิงพักร้างของชาวกัมพูชา 1 หลัง เพื่อคืนพื้นที่ให้ปลอดภัยและอยู่ในอธิปไตยของไทยอย่างสมบูรณ์

พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 (ผบ.ศปก.ทภ.1) ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงาน พร้อมมอบสิ่งของเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า โดยยืนยันว่ากองทัพพร้อมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ หน่วยพลเรือน และภาคประชาชน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง