“หมอเปรม”เสนอใช้เทคโนโลยีใหม่แก้ปัญหาน้ำบาดาลอีสานเค็มต่อยอดศก.เกษตรยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณารายงานรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนน้ำบาดาลปี 2565-2566 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายถึงการบริหารจัดการน้ำบาดาลโดยกรมทรัพยากรธรณี หลังการเปลี่ยนมาใช้ระบบกองทุนน้ำบาดาลในปี พ.ศ. 2546 โดยเน้นถึงความสำคัญของการวางแผนและนโยบายในการแก้ไขปัญหาน้ำบาดาลที่มีคุณภาพแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสานที่น้ำบาดาลมักมีความเค็มสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเกษตรและวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่

นพ.เปรมศักดิ์ เรียกร้องให้กรมทรัพยากรธรณีเร่งจัดสรรงบประมาณจากกองทุนน้ำบาดาล เพื่อสำรวจและพัฒนาน้ำบาดาลในภาคอีสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้น้ำบาดาลที่มีคุณภาพดีขึ้น สร้างความมั่นคงทางน้ำและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงโมเดล “โคกหนองนา” ที่เน้นการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ นพ.เปรมศักดิ์ ยังชี้ให้เห็นว่า น้ำบาดาลไม่ได้ใช้เพียงเพื่อการเกษตรเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในระบบสาธารณสุข เช่น ในโรงพยาบาล และการอุปโภคบริโภคของประชาชน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่กรมทรัพยากรธรณีต้องมีมาตรการเพื่อปรับปรุงบ่อบาดาลที่ไม่สามารถใช้งานได้ให้กลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมตั้งคำถามถึงการนำบ่อบาดาลที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือบ่อเถื่อนเข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อนำมาเก็บเงินกองทุนน้ำบาดาลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ

ในประเด็นด้านการบริหารหนี้กองทุนน้ำบาดาล นพ.เปรมศักดิ์เน้นย้ำความจำเป็นในการวางมาตรการทวงหนี้ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษางบประมาณและความมั่นคงทางการเงินของกองทุนให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนโดยรวม

การอภิปรายครั้งนี้สะท้อนความตั้งใจของสมาชิกวุฒิสภาที่ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาน้ำบาดาลอย่างครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีและการวางแผนที่เหมาะสมเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคที่ขาดแคลนน้ำบาดาลคุณภาพ รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการบริหารกองทุนน้ำบาดาลอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ.