
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึงนี้ กรมฯ ลงพื้นที่ติดตามราคาผักในตลาดอย่างใกล้ชิด ร่วมมือกับสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย และตลาดกลางสินค้าผักสำคัญทั่วประเทศ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดล้านเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางกระจายผักไปทั่วภูมิภาค เพื่อตรวจสอบปริมาณผลผลิตและแนวโน้มราคาต่อเนื่อง
ล่าสุดพบว่าราคาผักหลายชนิดต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอย่างชัดเจน เช่น กะหล่ำปลี กิโลกรัมละ 10 บาท ลดลงจาก 16 บาท, ผักกาดขาว 10 บาท จาก 13 บาท, ถั่วฝักยาว 16 บาท จาก 25 บาท และคะน้า 20 บาท จาก 40 บาท ขณะที่ผักบางชนิดราคาทรงตัว เช่น มะระจีน กิโลกรัมละ 20 บาท และแตงกวา 18 บาท
แม้ฝนตกทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ลักษณะฝนปีนี้เป็นแบบกระจาย ไม่ตกหนักเหมือนปีก่อน ส่งผลไม่กระทบรุนแรงต่อแหล่งเพาะปลูก ผักใบเขียวยังมีเพียงพอต่อความต้องการในเทศกาลกินเจ โดยเฉพาะกรณีผักคะน้าที่ราคาบางช่วงปรับสูงขึ้น เกิดจากฝนตกหนักที่กาญจนบุรี แต่สามารถทดแทนด้วยสินค้าจากสุพรรณบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง จึงยังมีผักคะน้าเพียงพอไม่ขาดตลาด
สำหรับผักที่ไม่ได้ใช้ในเทศกาลกินเจ เช่น ต้นหอมและผักชี ราคาปรับขึ้นเล็กน้อยจากสภาพอากาศฝนตกหนักในภาคเหนือ แต่ราคายังไม่สูงเท่าปีก่อน โดยต้นหอมอยู่ที่ 60-80 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 150-170 บาท ผักชีเพิ่มเป็น 100-120 บาทจาก 100-110 บาท
นายวิทยากรกล่าวว่า กรมฯได้เชื่อมโยงผลผลิตผักจากภาคกลางสู่พื้นที่ที่ขาดแคลนเพื่อรักษาสมดุลตลาด ช่วงเทศกาลกินเจนี้ราคาผักบางชนิดปรับสูงบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่โดยรวมสถานการณ์ดี ผลผลิตไม่เสียหายและราคายังถูกกว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะซื้อผักสดในราคายุติธรรมตลอดช่วงเทศกาล
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะร่วมกับตลาดกลางและผู้ประกอบการ ติดตามราคาและปริมาณผักอย่างใกล้ชิด หากพบราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดใกล้บ้าน เพื่อเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบทันที