
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามมาตรการป้องกันอุทกภัยที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมลงพื้นที่ นายธนกรยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดต่อการป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของประเทศ
นายธนกร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการตรวจเยี่ยม แต่เป็นการยืนยันว่า “เหตุการณ์ปี 2554 จะไม่เกิดขึ้นอีก” หลังได้เห็นถึงความพร้อมของนิคมฯ บางปะอิน ทั้งแนวคันดินคอนกรีตเสริมเหล็กตามมาตรฐานสากล ระบบสูบน้ำขนาดใหญ่ และแผนเผชิญเหตุที่รัดกุม
“ผมขอให้นักลงทุนทุกท่านมั่นใจว่า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องการลงทุนของท่านให้ปลอดภัย การเตรียมพร้อมวันนี้คือหลักประกันที่ดีที่สุดต่อความมั่นคงเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต” นายธนกรกล่าว
รมว.อุตสาหกรรมได้สั่งการให้บูรณาการข้อมูลน้ำแบบ Single Command พร้อมจัดทำช่องทางสื่อสารฉุกเฉินให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้สะดวก และผลักดันเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนิคมฯ 3 แห่ง ได้แก่ บางปะอิน บางหว้า (ไฮเทค) และนครหลวง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและช่วยเหลือกันในยามวิกฤต
ขณะนี้ ทั้งสามนิคมฯ มีการเฝ้าระวังสถานการณ์ผ่านระบบพยากรณ์น้ำฝนและข้อมูลระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหก โดยอยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมใช้ระบบแจ้งเตือน 4 ระดับ ตั้งแต่ “ธงเขียว” (ปกติ) ถึง “ธงแดง” (วิกฤต)
ด้าน นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ยืนยันว่า นิคมฯ ทุกแห่งในพระนครศรีอยุธยาได้ร่วมมือกับกรมชลประทานและหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งการของรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
กนอ. ยังได้ดำเนินมาตรการป้องกันน้ำท่วม 8 ด้าน ได้แก่
- ขุดลอกคูคลองภายในและนอกนิคมฯ
- ตรวจและซ่อมคันป้องกันน้ำ
- ตรวจบำรุงระบบสูบน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และหม้อแปลง
- เตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมใช้
- ติดตามข้อมูลข่าวสาร
- จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลา
- ฝึกซ้อมแผนป้องกันภัย
- สื่อสารข้อมูลถึงผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนิคมฯ บางปะอิน ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ มีโรงงานกว่า 100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ จ้างงานหลายหมื่นคน การป้องกันน้ำท่วมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
นิคมฯ ยังมีความพร้อม 3 ด้านหลัก คือ
- ด้านกายภาพ: มีคันดินป้องกันน้ำถาวรหลายสิบกิโลเมตร พร้อมประตูระบายน้ำอัตโนมัติ
- ด้านระบายน้ำ: มีสถานีสูบน้ำถาวรและเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่กว่า 50 เครื่อง ระบายน้ำได้หลายล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
- ด้านบริหารจัดการ: ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมฝึกซ้อมแผนอพยพและแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ร่วมกับโรงงานเป็นประจำ