“นายกอุ๊”สุดทนโวยอย.จับแหลกสินค้าชุมชนกระทบผู้ประกอบการโอทอปแนะแก้ระเบียบที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ (นายกอุ๊) นายกอบต.บ้านใหม่ อ.หาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะประธานโอทอปเทรดเดอร์ไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการโอทอปและวิสาหกิจชุมชนหลายรายถูกแจ้งจับ และปรับเป็นเงินหลายหมื่นบาท เพียงเพราะไม่มีอย.และรูปแบบฉลากไม่ถูกต้อง แม้เพียงขายใส่ในถุงพลาสติกใสๆที่ปิดสนิท ไม่มีการเตือนให้แก้ไข ปรับปรุงก่อนเหตุเพราะ มีเงินรางวัลนำจับ ปรับ แล้วมาแบ่งสรรปันส่วนกันระหว่างผู้แจ้ง กับข้าราชการตั้งแต่ เลขาธิการอย. รองเลขาธิการอย. ผู้อำนวยการและอีกหลายตำแหน่ง ฯลฯ หรือนี่จะเป็นสาเหตุ ทำให้อย.แปลว่า เอายาก ขอยาก ผ่านยาก มีค่าใช้จ่ายสูงมากจนชาวบ้านท้อ ถ้าไม่แก้ไขระเบียบนี้ ผู้ประกอบการรายย่อย..ตาย แม้จะขายข้างถนนก็ผิด
ขายงานวัดก็ผิด แจกก็ยังผิดเห็นที ต้องไปขายดาวอังคาร เป็นแน่แท้

นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า นี่มันคือการหากินบนคราบน้ำตาและการฆ่าตัดตอนโอกาสเล็กๆ ของชาวบ้าน ปล้นคนยากคนจน กันอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มาแบ่งกัน ไม่แยกแยะรายใหญ่ รายย่อยระเบียบต้องเป็นธรรม และไม่มีประโยชน์ทับซ้อนแบบนี้ และในขณะนี้รวมถึงที่ผ่านมา คนทั่วไป ไม่มีใครรู้กันว่า มันเกิดอาชีพ ไล่ตามชี้เป้าแจ้งจับ สินค้า ที่ผิดระเบียบของอย. โดยมีรายได้อย่างงดงาม ถูกต้องตาม ระเบียบที่อย.ซึ่งมีส่วนได้เสียในค่าปรับเป็นคนกำหนด นี่คือประโยชน์ทับซ้อนและความเหลื่อมล้ำ ที่ไม่เป็นธรรม บางแห่งมีการพูดถึงการร่วมมือกันทำมาหากินของระหว่างภายในหน่วยงานสาธารณสุขกับบุคคลภายนอกในการจับและปรับ ราชการได้ผลงานและได้เงิน คนชี้เป้าก็ได้เงิน คนฉิบหายตายสนิทคือ ชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่ต้องทำตามอย่างเดียว ทำถูกต้องก็ลงทุนเยอะมาก
หลักหมื่น หลักแสน หรืออาจถึงล้านไม่ทำก็เสี่ยงวัดดวงเอา ว่าจะโดนจับวันไหน

ทั้งนี้ ระเบียบที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ แก้ได้ เพียงแค่ เลขาธิการอย. ออกระเบียบไม่รับส่วนแบ่งและไม่มีค่านำจับใช้วิธีการ ดังนี้

1 .เตือน 2 ครั้งแนะนำให้แก้ไข
2 .ปรับเข้าหลวง 100% ไม่เข้ากระเป๋า ข้าราชการและคนนำจับ เอาไปตั้งเป็นกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน ดีกว่าไหม
3 .กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มโอทอป และผู้ประกอบการรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนให้มีเงื่อนไขผ่อนปรนที่เป็นธรรมและเหมาะสม กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ทดลองตลาดก่อน หากผ่านการอบรม พัฒนาจากหน่วยงานภาครัฐ ในเรื่องมาตรฐานสินค้า เพราะถ้าลุยลงทุนทำใหญ่ไป ถ้าเจ๊งก็ยาว ซึ่งมีตัวอย่างหลายรายแล้ว

นายกอุ๊ กล่าวว่า ทำง่ายๆแค่นี้ ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหมกเม็ด แบบนี้เป็นธรรมและชาวบ้านพอจะลืมตาอ้าปากได้ทั้งยังยินดีทำตามให้ถูกต้อง สินค้าทั้งประเทศต้องมีมาตรฐานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคนั้นใช่แต่ต้องมีวิธีการที่เหมาะสมระหว่างรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ เพราะศักยภาพ ไม่เท่ากัน ไม่อย่างนั้นปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำจะยิ่งถ่างออกไปเรื่อย ถ้ารัฐไม่เข้าใจและกำหนดระเบียบปฏิบัติตามจินตนาการเพ้อฝัน ที่ไม่สอดคล้องกับโลกแห่งความจริง ของคน ของระบบนิเวศน์ในระดับชุมชนฐานราก ตนว่าเรื่องนี้ ถ้าแก้ไข จะเป็นคุณูปการ ต่อคนจำนวนมาก

 
              

Message us