“พิพัฒน์”ตรวจสนามบินสุราษฎร์ฯสั่งเร่งแก้น้ำท่วมดันเป็นฮับท่องเที่ยวอ่าวไทย

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อประเมินความพร้อมด้านการให้บริการ และมอบนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม รองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมร่วมลงพื้นที่ อาทิ นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม, นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, นายเกียรติชัย ชัยเรืองยศ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน และนายสุรชัย หนูพรหม รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด และผู้แทนกรมทางหลวงร่วมรายงานสถานการณ์พื้นที่

นายพิพัฒน์ได้ตรวจเยี่ยมอาคารผู้โดยสาร อาคารขนส่งสาธารณะ และพื้นที่ให้บริการ CIQ (Customs – Immigration – Quarantine) เพื่อดูความพร้อมของระบบอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารต่างประเทศ พร้อมรับฟังรายงานแผนพัฒนาท่าอากาศยานจากกรมท่าอากาศยาน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีถือเป็น “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ” ของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยเฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การยกระดับสนามบินสุราษฎร์ธานีจึงเป็นภารกิจสำคัญ เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งทางอากาศกับการเดินทางบนบกอย่างไร้รอยต่อ ทั้งรถสาธารณะ รถแท็กซี่ และระบบขนส่งมวลชนภายในจังหวัด

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยานเร่งประสานกับสายการบินต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน เพื่อเชิญชวนเปิดเที่ยวบินตรงเข้าสุราษฎร์ธานี โดยเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ไม่ใช่ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน และเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

“ผมต้องการให้สุราษฎร์ธานีเป็นประตูการท่องเที่ยวอ่าวไทย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสามารถเดินทางมาได้สะดวกไม่ต่างจากภูเก็ต” นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าว

สำหรับ ปัญหาพื้นที่ นายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 รายงานว่า พื้นที่โดยรอบสนามบินและแยกบางใหญ่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังสูงราว 50 เซนติเมตร ระยะทางกว่า 500 เมตร ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน

นายพิพัฒน์ ได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมโยธาธิการฯ บูรณาการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยให้จัดทำแผนระยะยาวระบายน้ำลงคลองท่าทองและคลองบางใหญ่ พร้อมเสนอของบประมาณปี 2570 เพื่อดำเนินการถาวร ขณะเดียวกันให้เร่งดำเนินการแก้ไขเฉพาะหน้าในจุดวิกฤติทันที

นอกจากนี้ ยังได้หารือแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณ “แยกท่ากูบ” อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้างทางลอด ทางข้าม หรือวงเวียน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของการจราจรในเขตเมือง

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “คมนาคมเพื่อประชาชน” ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับการใช้ชีวิตจริงของประชาชน ทั้งการเดินทาง การประกอบอาชีพ และการท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งขับเคลื่อนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณนี้