![](https://sp-ao.shortpixel.ai/client/to_auto,q_glossy,ret_img,w_1024,h_536/https://www.phigudkhaow.com/wp-content/uploads/2022/10/LINE_ALBUM_12-09-65_220913_0-1-1024x536.jpg)
ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าด้วยสถานการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยรวมถึงพายุโนรู (NORU) ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จนเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง โดยมีพื้นที่ประสบสาธารณภัยอย่างน้อย 26 จังหวัดทั่วประเทศในขณะนี้ ซึ่งส่งผลให้ ผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการสถานบริการที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยบางรายจำเป็นต้องหยุดกิจการเป็นการชั่วคราว ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการสถานบริการดังกล่าว กรมสรรพสามิตจึงได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือด้วยการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการภาษีและการชำระภาษี รวมถึงการยื่นงบเดือน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการภาษีและชำระภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการสถานบริการที่โรงอุตสาหกรรม คลังสินค้าทัณฑ์บน หรือ สถานบริการแล้วแต่กรณี ตั้งอยู่ในจังหวัดที่มีการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) ในช่วงตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 สำหรับกรณีที่จะต้องยื่นแบบรายการภาษีและชำระภาษี ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ออกไปเป็นภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565
2.ขยายกำหนดเวลาการยื่นงบเดือน ตามมาตรา 118 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการสถานบริการที่โรงอุตสาหกรรม คลังสินค้าทัณฑ์บน หรือสถานบริการแล้วแต่กรณี ตั้งอยู่ในจังหวัดที่มีการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) ที่ต้องยื่นงบเดือนภายในเดือนตุลาคม 2565 ออกไปเป็นภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565
ดร.เอกนิติ กล่าวต่อว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวนี้ กรมสรรพสามิตมุ่งหวังที่จะช่วยบรรเทาภาระและความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการสถานบริการที่ได้รับผลกระทบที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้