
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ได้มีมติสำคัญด้านพลังงาน 7 เรื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและระบบพลังงานของประเทศให้มั่นคงและยั่งยืน
1. เดินหน้า “โซลาร์ฟาร์มชุมชน” Quick Big Win
กพช. เห็นชอบกรอบหลักการดำเนิน โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน (Community-based Solar Power Project) หนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพลังงาน เป้าหมายผลิตไฟฟ้ารวม 1,500 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อแห่ง
โครงการนี้มุ่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานระดับท้องถิ่น ลดค่าไฟของประชาชน โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะรับซื้อไฟในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 25 ปี และกำหนดให้สิทธิใน Renewable Energy Certificate (REC) และ Carbon Credit เป็นของภาครัฐ
มอบหมายกระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและ กฟภ. กำหนดพื้นที่เป้าหมายและหลักเกณฑ์ให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
2. เห็นชอบร่างสัญญา “Energy Wheeling” โครงการไฟฟ้าอาเซียน
กพช. เห็นชอบร่างสัญญา Energy Wheeling Agreement (EWA) สำหรับโครงการบูรณาการไฟฟ้า ลาว–ไทย–มาเลเซีย–สิงคโปร์ (LTMS-PIP) ระยะที่ 2
กำหนดอัตราค่าผ่านสาย (Wheeling Charge) ของไทยที่ 3.5879 เซนต์สหรัฐฯ/หน่วย เพื่อสนับสนุนการส่งผ่านไฟฟ้าพลังงานสะอาดในภูมิภาค ตามเป้าหมาย ASEAN Power Grid (APG)
3. อนุมัติแผนปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้ารับ “Data Center–EEC”
กพช. เห็นชอบให้ กฟผ. ใช้งบประมาณในโครงการ TIPE ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าในภาคตะวันออก รองรับการใช้ไฟเพิ่มขึ้นจากกลุ่ม Data Center และอุตสาหกรรมดิจิทัล
พร้อมมอบหมายให้จัดทำแผนระยะยาวเพิ่มเติมวงเงินรวม 30,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพระบบไฟฟ้าในพื้นที่ EEC (ระยอง–ชลบุรี)
4. เห็นชอบแนวทางลงนามสัญญา “โซลาร์ฟาร์มเอกชน”
เห็นชอบให้ กฟผ. ดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ที่อัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย พร้อมขอให้เอกชนพิจารณาปรับลดเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน
5. ปรับแผนพลังงาน PDP และกำหนดวันจ่ายไฟ (SCOD) ใหม่
เห็นชอบแนวทางปรับปรุงกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) และปรับแผนโรงไฟฟ้าในช่วงปี 2568–2573 ภายใต้กรอบแผน PDP2018 Rev.1 ไปพลางก่อน ระหว่างรอแผน PDP2024 ฉบับใหม่ เพื่อป้องกันการผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น และรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า
6. อนุมัติกรอบใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 15,000 ล้านบาท
กพช. เห็นชอบกรอบการใช้จ่ายกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2569–2571 รวม 15,000 ล้านบาท
โดยปี 2569 ใช้ 9,000 ล้านบาท สนับสนุนโครงการ โซลาร์ฟาร์มชุมชน และ โซลาร์สูบน้ำ สำหรับระบบชลประทานและประปาหมู่บ้าน
7. ปรับโครงสร้างคณะกรรมการภายใต้ กพช.
ที่ประชุมเห็นชอบยกเลิกคณะกรรมการภายใต้ กพช. เดิม 3 คณะ และจัดตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ชุดใหม่ พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า เพื่อให้การดำเนินนโยบายด้านพลังงานมีเอกภาพ คล่องตัว และสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน
นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้ายว่า มติทั้งหมดสะท้อนถึงการเดินหน้าขับเคลื่อน “พลังงานสะอาด–พลังงานเพื่อชุมชน” ควบคู่กับการเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ