นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังเร่งหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายหลักในการเสริมมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” และเน้นการดูแลการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซันเป็นพิเศษ คาดว่าจะสรุปและประกาศใช้มาตรการจูงใจด้านภาษีได้ภายในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. 2568 นี้
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรมีความพร้อมในการออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยสรรพากรพร้อมดำเนินการทันที หากได้รับความชัดเจนจากกระทรวงการท่องเที่ยวในประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดขอบเขตพื้นที่ที่เข้าร่วมาตรการนี้ ว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศ เน้นเมืองหลักและเมืองรอง หรือจะเป็นแบบผสมผสาน
“การดำเนินมาตรการในอดีต หากประกาศทั่วประเทศ คนอาจจะเดินทางไปแต่เมืองหลักเท่านั้น แต่หากประกาศเฉพาะเมืองรองก็อาจได้ผลตอบรับไม่ดีนักเพราะต้องการไปท่องเที่ยวเมืองหลัก จึงต้องมีการกำหนดทิศทางเชิงนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งคลังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับท่องเที่ยว“
สำหรับมาตรการนี้จะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ซึ่งจะเป็นการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา ในเบื้องต้นกำหนดวงเงินที่ 15,000 บาท อย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับเปลี่ยนได้หากรัฐบาลต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้น และคาดว่าจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่บุคคลธรรมดาเป็นหลัก
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่เปิดให้จองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังคงมีสิทธิ์เหลืออยู่กว่า 300,000 สิทธิ์ เนื่องจากมีเงื่อนไขค่อนข้างมาก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวสนับสนุนค่าที่พักในเมืองท่องเที่ยวหลัก 50% (วันธรรมดา) และ 40% (วันหยุด) สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน และ 50% สำหรับเมืองน่าเที่ยว (ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด) โดยผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับ e-Coupon มูลค่า 500 บาท เมื่อเช็กอินเข้าที่พัก รัฐบาลยังคงตั้งเป้าหมายต้อนรับนักท่องเที่ยว 39 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวที่ 3 ล้านล้านบาทในปี 2568 โดยเตรียมโครงการ “Amazing Thailand Grand Tourism and Sport” ซึ่งจะนำอีเวนต์และนักแสดงระดับโลกเข้ามาเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมาตรการภาษีนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยก่อนเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน