
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC โดยมีโอกาสแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับแรกแถว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง (จับตาแนวต้านสำคัญของราคาทองคำแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้ ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ว่าจะเริ่มกลับมาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยหรือไม่ หลังแรงขายสุทธิหุ้นไทยเริ่มชะลอตัวลง และดัชนี SET ก็เริ่มส่งสัญญาณอาจกลับตัวหรือรีบาวด์ขึ้นได้ในระยะสั้น ส่วน Valuation ของหุ้นไทยก็ถือว่า ถูกลงจากช่วงก่อนหน้าพอสมควร (Forward P/E ล่าสุด 15.1 เท่า)
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ (หลังจากปรับตัวอ่อนค่าลงเกือบ -1% ในสัปดาห์ก่อน) หากเฟดไม่ได้กังวลต่อปัญหาสภาพคล่องของระบบธนาคารมากนัก และคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด (Dot Plot) ใหม่สะท้อนว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.50% อนึ่ง หากในช่วงก่อนการประชุม FOMC ตลาดยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง จากความกังวลปัญหาเสถียรภาพของธนาคารสหรัฐฯ และยุโรป ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงเลือกที่จะถือ ทองคำ หรือ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่า เงินดอลลาร์
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.80-34.50 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.15 บาท/ดอลลาร์