
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีมีกระแสข่าว โฮเวิร์ด ลุตนิก รมว.สหรัฐฯ แจ้งว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับไทย-กัมพูชาแล้ว หลังจากทั้งสองประเทศตกลงตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันข้อมูลที่เป็นทางการว่า สหรัฐจะประกาศภาษีกับไทยอัตราที่เท่าไร เพียงแต่ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำข้อมูลเสนอทีมคณะเจรจา ซึ่งมีรมว.คลัง เป็นหัวหน้า และหารือกับผู้เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว โดยหลังจากนี้ใน 24 ชั่วโมงจะต้องรอทางสหรัฐตอบยืนยันกลับมา ซึ่งยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาข้อมูลครบทุกมิติ และมีจุดยืนที่ชัดเจนในการดูแลประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อภาพรวมประเทศ
ทั้งนี้ ตนคิดว่าการประกาศของสหรัฐ ต้องออกมาทันใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ภาษีจะขึ้นไปเป็นที่ 36% ทันที แต่เวลาทั้ง 2 ประเทศ แตกต่างกัน 12 ชั่วโมงก็ต้องรอฟังผลกันอีกทีว่าเมื่อไร ส่วนจะเลื่อนวันออกไปหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ต้องรอทางสหรัฐแจ้งมา
นายจตุพร กล่าวว่า หลังวันที่ 1 ส.ค.ไปแล้ว ทุกอย่างคงไม่เหมือนเดิม และภาษีจะต้องปรับขึ้น จะขึ้นมากหรือน้อยอยู่ที่สหรัฐฯ ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมพร้อม ดูแลผู้ประกอบการเล็ก กลาง ใหญ่ไว้แล้ว รวมถึงการประสานหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลนมาเสริมสภาพคล่องเอกชน
นอกจากนี้ ได้หารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง ในการตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส ให้คำปรึกษาภาษีสหรัฐ ที่ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก โดยมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารวมอยู่ที่ตรงจุดนั้น เพื่อให้คำปรึกษาแบบครบถ้วนทุกเรื่องแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกทั้ง ยังมอบหมายให้ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมทำโครงการเสนอขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเหลืออยู่ ในการหาตลาดใหม่ การเจรจาการค้า เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดจากการขึ้นภาษี ตลอดจนการทำโครงการไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ในการส่งเสริมการบริโภคสินค้าภายในประเทศ ทดแทนการส่งออกที่อาจลดลงด้วย