
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการจัดเครดิตของ SME D Bank ประจำปี 2568 โดยคงอันดับภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ “AAA(tha)” แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตระยะสั้นที่ “F1+(tha)” ถือเป็นผลประเมินอันดับสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 (ปี 2556-2568) เนื่องจากฟิทช์ฯ มีมุมมองต่อ SME D Bank ว่า มีบทบาทที่สำคัญในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยกระทรวงการคลัง ถือหุ้นถึง 99.4% สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพ สถานะเข้มแข็งมั่นคง และมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการสนับสนุนช่วยเหลือและสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความท้าทายสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุนจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
อีกทั้ง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน SME D Bank อย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย จากสัดส่วนประมาณ 35% ของ GDP ณ สิ้นปี 2567 นอกจากนั้น ฟิทช์ฯ ยังเชื่อว่า รัฐบาลจะคงให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในระยะยาวต่อไป ด้วยบทบาทเฉพาะของ SME D Bank และความเชี่ยวชาญในกลุ่มดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อเนื่องในการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย ควบคู่กับช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ
สำหรับ SME D Bank ยึดมั่นแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ด้วยกระบวนการ “พัฒนาคู่เติมทุน” สำหรับด้าน “การเงิน” ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) ซึ่งธนาคารได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล สนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน ช่วยเสริมศักยภาพและลดต้นทุนธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ได้แก่ 1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท 2.สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท และ 3.สินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ควบคู่บริการด้าน “การพัฒนา” ครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ช่วยผู้ประกอบการยกระดับธุรกิจ และเดินหน้ากิจการสู่ความสำเร็จ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
