อุตฯ เร่งผลักดัน “Made in Thailand” ปลุกอุตสาหกรรมยานเกราะสู่เวทีโลก

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด จังหวัดปทุมธานี เพื่อรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และหารือแนวทางยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน โดยมีนายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายสราวุธ พรทิพย์ อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี และนางนพรัตน์ กุลหิรัญ หรือ “มาดามรถถัง” ผู้บริหารบริษัท ให้การต้อนรับ

นายธนกร กล่าวว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศถือเป็น “อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่” (New S-Curve) ที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่มีประโยชน์สองทาง (Dual-Use) เช่น ยานยนต์หุ้มเกราะ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในภารกิจด้านความมั่นคงและเชิงพาณิชย์ นับเป็นหนึ่งในแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาการนำเข้า

ระหว่างการเยี่ยมชม นายธนกร ได้รับฟังการบรรยายสรุปจากผู้บริหาร และลงพื้นที่ดูขั้นตอนการผลิตจริง ทั้งการสร้างโครงสร้างและชิ้นส่วนรถหุ้มเกราะ การประกอบยานเกราะ และยานเกราะต้นแบบที่เตรียมส่งมอบให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

“ผู้ประกอบการไทยพิสูจน์แล้วว่าเรามีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลกได้ บริษัท ชัยเสรีฯ ถือเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบาย Made in Thailand และเป็นความภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมไทย” นายธนกรกล่าว

มาดามรถถัง

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมผลักดันมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้ง “เขตปลอดอากรอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” ร่วมกับกรมศุลกากร เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านวัตถุดิบ และการจัดตั้ง “ศูนย์สารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” เพื่อรวบรวมข้อมูลและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในภาคเอกชน

นายธนกรย้ำว่า กระทรวงพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขจัดอุปสรรคและผลักดันให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศกลายเป็นกลไกสำคัญในการสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

สำหรับ บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด เป็นบริษัทไทย 100% ที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมากว่า 57 ปี ส่งออกสินค้าไปแล้วกว่า 44 ประเทศทั่วโลก มีธุรกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่

  1. การวิจัย พัฒนา และผลิตยานเกราะหลากหลายรุ่น
  2. การซ่อมบำรุงและปรับปรุงยานเกราะ (MRO/Modernization)
  3. การผลิตสายพานและยางรันแฟลต โดยใช้ยางพาราในประเทศเป็นวัตถุดิบหลัก

บริษัทได้รับมาตรฐานสากลทั้ง ISO 9001, ISO 14000 และ ISO 45000 รวมถึงรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว และรางวัลผู้ส่งออกดีเด่น (Prime Minister’s Export Award) ปี 2023 ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตไทยที่พร้อมแข่งขันบนเวทีโลก

ข่าว/ภาพ ; พงษ์พัทธ์ วงศ์ยะลา ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี