เอกชนขานรับฟื้นคนละครึ่งภูมิใจไทยเอาแน่เดินหน้าเต็มสูบ

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่พรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการ ภาคเอกชน อาทิ นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน (LINE MAN Wongnai) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย วงใน มาพบปะเพื่อหารือ กับคณะทำงานของพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับ โครงการคนละครึ่ง ที่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเตรียมปัดฝุ่น

นายสิริพงษ์ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า ได้มีการหารือถึงแนวทางการดำเนินงาน โดยมีประเด็นสำคัญและข่าวดีหลายประการสำหรับผู้ประกอบการและประชาชน ภาคเอกชนพร้อมหนุนเต็มที่คาดว่าจะดำเนินการได้รวดเร็วคือ ภาคเอกชนมีความพร้อมอย่างมากที่จะช่วยสนับสนุนโครงการนี้ โดยยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลร้านอาหารให้กับกระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำฐานข้อมูล ซึ่งผู้ที่เคยใช้แพลตฟอร์มอยู่แล้วอาจไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่

สำหรับ แนวทางนี้เป็นการเสนอมาจากทางสมาคมรับฟังปัญหาจากโครงการเดิม เลี่ยงเงื่อนไขซับซ้อน การหารือครั้งนี้ยังได้มีการรับฟังปัญหาจากโครงการคนละครึ่งในอดีต ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ อาทิ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่มากเกินไป ระยะเวลาการใช้ที่ไม่เหมาะสม และวงเงินในการใช้ ผู้แทนผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้เน้นย้ำถึงความต้องการที่จะ “อย่ามีเงื่อนไขอะไรเยอะเลย ให้เราได้ง่ายๆ”

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า  ประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับร้านค้าเป็นอย่างมากคือเรื่องการเก็บภาษีย้อนหลังเมื่อเข้าร่วมโครงการ ซึ่งแนวคิดของนายกฯยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลัง นอกจากนี้นายกฯ ยังมีแนวคิดที่จะ เพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษีด้วย โดยรายละเอียดจะมีการแถลงจากท่านนายกฯอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ส่วนลดพิเศษจากแพลตฟอร์ม และข้อเสนอเพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อวัน สมาคมและแพลตฟอร์มต่างๆ ยังได้แจ้งข่าวดีว่า ในช่วงที่ดำเนินโครงการ จะมีส่วนลดพิเศษ เช่น การลดค่า GP (Gross Profit) สำหรับร้านค้าที่ใช้โครงการคนละครึ่ง

“ส่วนวงเงินการใช้จ่ายต่อวัน จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 150 บาท ภาคเอกชนได้เสนอขอเพิ่มวงเงินเป็นประมาณ 200 บาทต่อวัน รัฐบาลรับทราบข้อเสนอนี้ แต่ได้ชี้แจงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณ เนื่องจากเป็นช่วงรัฐบาลรอยต่อ มีเงินคงคลังไม่มาก และนโยบายของท่านนายกฯ คือ จะไม่มีการกู้เพิ่ม เพราะหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง จะพยายามหาทางออกและหารือกับท่านนายกฯ เพื่อพิจารณาหาเงินสนับสนุนต่อไป รวมทั้งแก้ปัญหาผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน และสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษี สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทางโครงการจะมีการรองรับในรูปแบบ ออฟไลน์”นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการที่ต้องการสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมเพื่อจูงใจให้เข้าร่วมโครงการมากขึ้นนั้น สิทธิ์ดังกล่าวอาจไม่ได้มาในรูปแบบของการลดหย่อนภาษีโดยตรง แต่จะเป็นลักษณะอื่น เช่น การสนับสนุนให้ไป อบรมพัฒนาต่อยอดเพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของว่าที่รม.คลัง ที่ต้องการให้โครงการนี้เป็นโอกาสในการเริ่มต้นพัฒนาตนเองของผู้ประกอบการ ขั้นตอนต่อไป ข้อเสนอต่างๆ จากการหารือจะถูกนำเสนอต่อว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนการแถลงนโยบายและการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีเป้าหมายที่จะ เริ่มต้นโครงการให้เร็วที่สุด

ส่วนการเชื่อมต่อระบบระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น แอปของแพลตฟอร์มกับแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จะมีการนัดหารือกันเป็นการภายในในขั้นตอนต่อไป สำหรับประชาชนที่อยู่ในฐานข้อมูลเดิมอยู่แล้วอาจไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม และจะสามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อโครงการเริ่ม

ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ความหวังที่กลับมา ตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 700,000 ราย ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลและท่านนายกฯ อนุทิน ที่เข้าใจความทุกข์ยาก เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ร้านอาหารหลายแห่งต้องปิดตัวลง ยอดขายตกในกรุงเทพฯ 50-60% และต่างจังหวัดสูงถึง 80-90% หลายรายปิดไปพร้อมกับหนี้สิน

สำหรับ โครงการคนละครึ่งถูกมองว่าเป็น “ทางรอด” ซึ่งเคยพยายามเสนอรัฐบาลชุดก่อน แต่ไม่ได้รับการตอบรับ การที่รัฐบาลชุดปัจจุบันเร่งดำเนินการ และมีแนวทางที่ชัดเจนทำให้ผู้ประกอบการมีความสุขขึ้นมากๆ และ มีความหวังในชีวิตมากขึ้นว่าจะรอดแล้ว หลายคนรู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบันแย่กว่าช่วงโควิด เพราะรัฐบาลก่อนไม่รับฟังเสียงความเดือดร้อน