
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ น้ำท่วมภาคใต้ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และอีกหลายจังหวัด สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างต่อบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และภาคธุรกิจ สถาบันการเงินของรัฐ (SFIs) ได้ระดมกำลังออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ดังนี้
ออมสิน พักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน ดอกเบี้ย 0%
นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ได้เร่งช่วยเหลือลูกค้ากว่า 100,000 ราย ในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ด้วยมาตรการ ได้แก่
มาตรการพักชำระหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน โดยธนาคารยกเว้นดอกเบี้ยให้ทั้งหมด (0%) ในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนเงินต้นที่พักไว้จะนำไปรวมชำระในงวดสุดท้าย ลูกค้าจะได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์ หากไม่ประสงค์เข้าร่วมสามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ซึ่งยอดเงินจะถูกนำไปตัดลดเงินต้นทั้งจำนวน
นอกจากนี้ มีมาตรการสำหรับผู้ประกอบการ (Non-NPLs) ลูกหนี้ที่มีตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ครบกำหนดชำระระหว่าง 19 พ.ย. – 30 ธ.ค. 2568 สามารถขยายวันครบกำหนดออกไปอีก 90 วัน ชำระดอกเบี้ยตามเงื่อนไขเดิม ทั้งนี้ มาตรการข้างต้นไม่รวมสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่, สินเชื่อชีวิตสุขสันต์, สินเชื่อ PSA และสินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ
SME D Bank พักหนี้สูงสุด 1 ปี – เติมทุนฉุกเฉินไม่ต้องค้ำ
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) กล่าวว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ประสบภัย จึงออกมาตรการช่วยเหลือ ได้แก่
1.มาตรการพักชำระหนี้ พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน (สำหรับ Term Loan) และขยายเวลาตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) สูงสุด 180 วัน
2.มาตรการเติมทุนฉุกเฉิน ให้วงเงินกู้ 10% ของวงเงินเดิม ขั้นต่ำ 30,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR กู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน
3.สินเชื่อฟื้นฟู เป็นสินเชื่อเสริมสภาพคล่องหลังน้ำลด อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่ 3 ปีแรก วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท
ไอแบงก์ พักหนี้ 6 เดือน
นายธีระ ยีโกบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่มงานธุรกิจสาขา ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ในยามวิกฤตเช่นนี้ ไอแบงก์ยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างพี่น้องชาวใต้ ด้วยการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายใต้โครงการ “ไอแบงก์เราไม่ทิ้งกัน” โดยเปิดให้ยื่นขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาในพื้นที่ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2568 มีรายละเอียด ดังนี้
มาตรการพักชำระหนี้ พักชำระเงินต้นและกำไร ทุกประเภทวงเงิน ไม่รวมสินเชื่อหมุนเวียน ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
มาตรการสินเชื่อซ่อมแซมและฟื้นฟู ได้แก่ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท อัตรากำไรปีแรก 1.99% ต่อปี และฟื้นฟูกิจการ วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท อัตรากำไรปีแรก 2.99% ต่อปี โดยทั้งสองกรณีให้ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 5 ปี และปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
มาตรการช่วยเหลือลูกค้า NPF สำหรับลูกค้าบุคคลและ SMEs ที่มีหนี้เงินต้นเกิน 20 ล้านบาท และค้างชำระเกิน 90 วัน จะได้รับความช่วยเหลือผ่านอัตรากำไรพิเศษ, ส่วนลดเบี้ยปรับค้างชำระ หรือการนำค่างวดมาตัดชำระเงินต้นได้ก่อน
มาตรการประกันตะกาฟุล เร่งประสานงานเคลมสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่มีประกันอัคคีภัยคุ้มครองภัยธรรมชาติ
บสย.พักค่าธรรมเนียม – ค่างวด 6 เดือน
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยมาตรการเร่งด่วนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ ปภ. ประกาศ แบ่งออกเป็น
1. ลูกค้า บสย. ให้ผ่อนผันพักชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อออกไปอีก 6 เดือน สำหรับยอดที่ครบกำหนด 14 พ.ย. – 15 ธ.ค. 2568
2.ลูกหนี้ บสย. กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้ พักชำระค่างวดเป็นเวลา 6 เดือน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในวันที่ 15 ธ.ค. 2568
EXIM BANK ยืดหนี้อัตโนมัติ 30 วัน – เสริมสภาพคล่องส่งออก
นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุว่า เพื่อบรรเทาภาระให้ลูกค้าในพื้นที่หาดใหญ่และภาคใต้ ธนาคารได้ออกมาตรการดังนี้:
มาตรการเร่งด่วน: ยืดหนี้อัตโนมัติ 30 วัน สำหรับหนี้ทุกประเภทที่ครบกำหนดชำระในเดือนธันวาคม 2568
สำหรับวงเงินกู้ระยะสั้น ขยายตั๋ว P/N สูงสุด 180 วัน, เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวสูงสุด 20% (ไม่เกิน 2 ล้านบาท) หรือเปลี่ยนหนี้สั้นเป็นยาวผ่อนสูงสุด 3 ปี
ส่วนวงเงินกู้ระยะยาว ขยายเวลาสูงสุด 7 ปี, ลดดอกเบี้ยปีแรก 0.50% หรือพักชำระเงินต้นสูงสุด 1 ปี
ธ.ก.ส. ให้เงินด่วนฉุกเฉิน 5 หมื่น ดอกเบี้ย 0%
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มอบนโยบายให้ ธ.ก.ส. ช่วยเหลือเกษตรกรใน 10 จังหวัดภาคใต้ ดังนี้
สินเชื่อค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนแรก (หลังจากนั้นคิด MRR)
สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนและเครื่องมือเกษตร วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2
พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและสำรวจความเสียหายเพื่อพิจารณาลดภาระหนี้สินต่อไป
ธอส. ออก 7 มาตรการ “ลด-พัก-ปลอดหนี้”
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยปี 2568 ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ดังนี้
1. ลูกค้าปัจจุบัน พักชำระหนี้ 3 เดือน (ดอกเบี้ย 0%) เดือนที่ 4-12 ดอกเบี้ย 2.00% (ลดเงินงวด 50%) พร้อมให้กู้ซ่อมแซมสูงสุด 3 แสนบาท ดอกเบี้ยต่ำ 1% นาน 3 ปี
2. ให้วงเงินกู้ใหม่/กู้เพิ่ม วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนแรก
3. ลูกค้า NPL ที่หลักประกันเสียหาย สามารถประนอมหนี้สูงสุด 1 ปี 6 เดือน โดยในช่วง 6 เดือนแรก ดอกเบี้ย 0% ไม่ต้องผ่อน
4. ลูกค้า NPL ที่มีผลกระทบรายได้ ให้ประนอมหนี้สูงสุด 1 ปี ช่วง 6 เดือนแรก ดอกเบี้ย 0% ผ่อนเพียง 1,000 บาท ตัดเงินต้นทั้งหมด
5. กรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพ ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ตลอดอายุสัญญา
6. กรณีที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลัง ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร ผ่อนชำระต่อเฉพาะส่วนของที่ดิน
7. สินไหมเร่งด่วน (Fast Track) จ่ายค่าสินไหมประกันอัคคีภัยเร่งด่วนจากภาพถ่าย ตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท และเพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติอีกไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับกรมธรรม์ที่เริ่มหลัง 1 พ.ย. 62
ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อสอบถามและยื่นความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาของธนาคารแต่ละแห่ง หรือผ่านช่องทาง Call Center และสื่อออนไลน์ของธนาคารได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป