
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ มอบหมายให้ นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการยกระดับและพัฒนามรดกภูมิปัญญาผ้าและงานหัตถกรรมไทยตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จัดโดย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นางสาวอรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายสมหวัง อารีเอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายศราวุธ สุวรรณจูฑะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายพิสดาร ประดา ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการผ้าและเครื่องแต่งกาย เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา กว่า 300 คน ร่วมกิจกรรม

นายราชันย์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงมีพระวิริยอุตสาหะในการสนองงานแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาหัตถกรรมไทยให้คงอยู่อย่างยังยืน

“ประการสำคัญ พระองค์ได้พระราชทานแนวพระดำริการผสมผสานระหว่างศิลปะงานผ้าที่มีความเป็นอัตลักษณ์ในแต่ละภูมิภาคกับมุมองด้านแฟชั่นร่วมสมัย และพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย มาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ให้เหมาะสมในโอกาสต่าง ๆ เป็นที่นิยมของทุกเพศทุกวัย สร้างสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนและกลุ่มผู้ผลิตผ้า ส่งเสริมและกระตุ้นการรังสรรค์ผ้าไทยให้มีความทันสมัยเป็นสากลอยู่เสมอ พระราชทานลายผ้าพระราชทานเป็นจำนวนมาก ทั้งได้พระราชทานแนวพระดำริ Sustainable Fashion เพื่อให้วงจรการผลิตผ้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยก้าวไกลสู่สากล ยังผลให้ประชาชนคนไทยได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ที่เพิ่มพูนและมั่นคง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายราชันย์ กล่าว

สำหรับภูมิปัญญาการทอผ้าของภาคะวันออกเฉียงเหนือมีหลากหลาย ทั้งการทอผ้าพื้นเมือง ผ้ามัดหมี่ ผ้าขิด และด้านงานหัตถกรรม มีการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและกรรมวิธีการทอที่สลับซับซ้อน เช่น ผ้าหมี่ขิด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอุดรธานี ตามคำขวัญ “ธานีผ้าหมี่ขิด” ที่มีความประณีต งดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีประวัติการทอมายาวนาน มีการสืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษในครัวเรือน และพัฒนาลวดลายที่เป็นลายอัตลักษณ์สะท้อนถึงภูมิปัญญาการทอผ้าที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีที่งดงามและมีเอกลักษณ์อันมีรากจากภูมิปัญญาและวิถีชีวิตที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งล้วนเป็นความภาคภูมิใจและเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศ

“ขอฝากให้ทุกคนได้ช่วยกันสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาด้านงานผ้า งานหัตถกรรม และเรียนรู้ผ่านการถ่ายทอดของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำความรู้ไปประยกต์ใช้ในการออกแบบงานผ้าอันเป็นการธำรงรักษาชาติไทยให้คงความเป็นชาติด้วยมีวัฒนธรรมไทย หัตถกรรมไทย และองค์ความรู้คู่แผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน” นายราชันย์ กล่าว

การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ ได้รับเกียรติจากคณะวิทยากร ได้แก่ ดร.ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก อ.ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายวิชาการและรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักวิชาการสร้างสรรค์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกปาน อาจารย์ประจำและประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

อ.ดร.กิติศักดิ์ เยาวนานนท์ สาขาวิชาการสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อ.ดร.ฐิศิรักน์ โปตะวณิช สาขาวิชาการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดีย วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยในช่วงเช้าเป็นการเสวนาถ่ายทอดแนวพระดำริและพระปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทย และในช่วงบ่าย เป็นการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการผลิตและจำหน่ายผ้าไทย เช่น การทอผ้า การย้อมสี การออกแบบตัดเย็บ การจัดทำบรรจุภัณฑ์ การตลาด การสื่อสารสังคม เป็นต้น
