จำคุก 192 ปี 6 เดือน อดีต ผอ.ให้นร.อนุบาลกินขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขคดี ดำ อท.29/2564 เลขคดีแดง อท.42/2565 ระหว่าง พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีเป็นจำเลย กระทำการเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น มาตรา 151 และ ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 จากกรณีเพจ@ชมรมstrong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์คลิปเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ กินเส้นขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ไปช่วยราชการ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2562 และ ที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีมติไล่ออกนายสมเชาว์ ตามความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง

ทั้งนี้ ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม),162(1)(4)(เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 121/1 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และการกระทำของจำเลยในแต่ละครั้งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 77กระทงให้จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 385 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)

โดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามฟ้องและพยานหลักฐานโจทก์ตามทางไต่สวนแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยในแต่ละกระทงความผิดแม้คิดคำนวณได้เป็นตัวเงินไม่มากนัก แต่จำเลยได้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งจำเลยเป็นผู้บริหารโรงเรียนแต่กลับอาศัยอำนาจหน้าที่เบียดบังเอาผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้ทำให้เด็กนักเรียนในปกครองไม่ได้รับอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ และจำนวนที่เพียงพอต่อการพัฒนาการทางร่างกายและย่อมส่งผลเสียในระยะยาว พฤติการณ์แห่งคดีจึงร้ายแรงไม่สมควรรอการลงโทษ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

Message us