เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ตำบลกระแชง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายไวพจน์ เอี่ยมสะอาด นายก อบต.กระแชง น.ส.ชิดชนก พวงเพ็ชร์ และคณะลงพื้นที่ลุยน้ำกว่า 1 เมตร ออกเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังสูงติดต่อกันมาหลายวัน
สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ขณะนี้ขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากอิทธิพลพายุโนรูทำให้ฝนตกหนักมาก และเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงขึ้น น้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จมน้ำหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะอำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ที่ชั้นสองของบ้านพัก เนื่องจากน้ำเข้าท่วมที่ชั้นแรกของตัวบ้าน ประชาชนต้องใช้เรือในการสัญจร ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ สร้างรอยยิ้มความดีใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จากนั้นลงพื้นที่ วัดถั่วทอง ตำบลบ้านปทุม อำเภอสามโคก ให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ร่วมกันนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ โดยมี พระครูวิบูลย์กัลยาณคุณ เจ้าอาวาสวัดถั่วทองและนายพีระศักดิ์ พงษ์พุฒิพัฒน์ นายก อบต.บ้านปทุม ช่วยกันเรียงกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วม วัด ชุมชน และโรงเรียนอย่างเร่งด่วน โดยนายชาญ พร้อมครูโรงเรียนวัดถั่วทอง ลุยน้ำท่วมขังสูงกว่า 70 เซนติเมตรในพื้นที่ บางจุดสูงเกือบ 1 เมตร นำข้าวกล่องมาแจกให้เจ้าหน้าที่และประชาชน ที่ช่วยกันนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ ชุมชนแห่งนี้ยังคงมีระดับน้ำที่ท่วมสูงอยู่ ทำให้การสัญจรเข้าออกลำบาก จำเป็นต้องทำคันกั้นน้ำและเร่งสูบน้ำออกโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น
นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ตนเองติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ปทุมธานีมาโดยตลอด ขณะนี้ ได้เข้าท่วมหลายพื้นที่โดยเฉพาะอำเภอสามโคกและอำเภอเมืองปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยขณะนี้น้ำท่วมเกือบเท่าปีที่แล้ว คิดว่าน้ำน่าจะมามากกว่านี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศด้วย ถ้าฝนตกลงมาหนักอีกก็จะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพราะตนเองเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ต้องออกมาให้กำลังใจ พ่อแม่พี่น้อง ถึงตนเองจะไม่ได้เป็นนายก อบจ. แต่ตนเองมีประสบการณ์เรื่องน้ำท่วม ก็ออกมาให้คำแนะนำ พร้อมนำข้าวกล่องมาแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชน เพราะ”คนปทุมไม่ทิ้งกัน”
