เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชํานาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พร้อมด้วย หน่วยคอมมานโด บูรพา 491 นำหมายจับ 487/2565 เข้าทำการจับกุม นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู๋เอี๋ยว อายุ 45 ปี เป็นคนต่างด้าวเชื้อชาติจีน ถือบัตรประชาชนไทยปลอม ที่ออกโดยอำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในประวัติทะเบียนราษฎรอันเป็นเอกสารราชการ (บัตรประชาชนปลอม)
เกี่ยวกับเรื่องนี้นายชำนาญวิทย์ เตรันต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จ เบื้องต้น พบว่า นายนิติพัฒน์ มีการออกบัตรประจำตัวประชาชนจริง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 หรือเมื่อ 30 ปี ที่แล้ว ใช้ชื่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยที่พ่อแม่ของผู้เสียชีวิตไม่รู้เรื่อง เบื้องต้นพบการออกบัตรประชาชนจากสำนักงานเทศบาลเมืองตราด เป็นหน่วยงานที่ออกบัตรประชาชนประจำตัวให้ ส่วนการตรวจสอบหาตัวเจ้าพนักงานที่ออกบัตรนั้น จะต้องดูว่าผู้ออกบัตรยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะระยะเวลาผ่านมา 30 ปีแล้ว และยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ออกบัตรให้ การออกบัตรประชาชน ปัจจุบัน ทุกอำเภอ มีความเข้มงวด มีระเบียนอย่างชัดเจนในการออกบัตรประจำตัวประชาชน
ด้านนายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด กล่าวว่า ได้รับแจ้งเรื่องนี้ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่ติดตามคดีนี้ หลังพบว่า มีการสวมสิทธิบัตรผู้ตาย โดยที่ผู้สวมสิทธิได้มาแจ้งเกิดที่คลีนิคแพทย์แห่งหนึ่งใน จ.ตราด แล้วมาแจ้งทำบัตรประชาชนที่สำนักทะเบียน เทศบาลเมืองตราด และมีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ซึ่งได้แจ้งว่า มีพ่อเป็นชาวจีน และตัวเองมีสัญชาติจีน แม่เป็นชาวนครราชสีมา แต่วันนี้ผู้สวมสิทธิทำธุรกิจอยู่ที่อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หากติดตามและตรวจสอบจะพบพิรุธ เพราะหลักฐานไม่เชื่อมโยงกัน แต่มีลักษณะกระโดด โดยได้ตั้งข้อสังเกตให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไป พร้อมแนะนำว่า ควรจะเรียกพ่อ แม่มาสอบปากคำ แต่เมื่อพ่อตายแล้ว เหลือแม่ก็เรียกมาสอบปากคำก็ได้น่าจะได้พยานที่สามารถพิสูจน์ได้ทั้งตัวบุคคลและทางดีเอ็นเอ
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 กว่า 30 ปีแล้ว โดยยุคนั้นการทำบัตรประชาชนต้องทำอายุ 15 ปี และทำด้วยการเขียนด้วยลายมือ จึงมีการทุจริตง่าย คนที่ทำทุจริตหากอายุมากก็น่าจะอายุเกิน 70-80 ปีแล้ว หรือน่าจะเสียชีวิตไปแล้วหากอายุไม่ยืน ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตลอดและแนะนำการตรวจสอบ สำหรับหลักฐานการทำนั้นที่อำเภอเมืองตราดไม่มี แต่น่าจะอยู่ที่เทศบาลเมืองตราด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการทุจริตทำบัตรประชาชนทำได้ยากมากขึ้น เพราะวันนี้ใช้ระบบออนไลน์ในการประสานข้อมูลกันแล้ว”นายอำเภอเมืองกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากกรณีนี้ ในพื้นที่จ.ดตราดมีการทุจริตทำบัตรประชาชนสวมสิทธิมาหลายครั้งทั้งในอ.เมืองตราดและอ.บ่อไร่ ซึ่งมีปลัดอำเภอและอดีตนายอำเภอบ่อไร่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทะเบียนต้องถูกดำเนินคดีทและถูกไล่ออกมาหลายคนแล้ว
