ความคืบหน้าแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.สงขลา พาไปขยายผลล่อซื้อบริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ต.แพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อ 18 ตุลาคม ได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง 1 คันโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้าของกลาง 10 มัด จำนวน 2 หมื่นเม็ด
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุแล้วจำนวน 5 คน จากผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน ที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่ม โดยแยกเป็นผู้ที่ร่วมก่อเหตุ 8 คน ส่วนอีกคนเป็นเจ้าของบ้านที่ใช้ประชุมวางแผนก่อเหตุ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ศักดิ์ดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 และชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องได้ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายอัฟฟาน แก้วเรืองศรี 2.นายธีระวุฒิ หัวแหวน 3.นายกัมปนาท หมัดอาด้ำ และ 4.นายเสริมศักดิ์ ศรีสุวรรณ และยึดรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว 3 คัน เป็นรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาวทะเบียน สุราษฎร์ธานี เป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งนำไปฝากไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา รถกระบะอีซูซุแคป สีดำ ทะเบียน สงขลา และรถโตโยต้าวีออส สีขาวทะเบียน สงขลา 1 คัน
อย่างไรก็ตาม นายเสริมศักดิ์ ถูกจับกุมได้ขณะหนีไปกบดานในพื้นที่เขตรอยต่อ จ.พัทลุง กับ จ.ตรัง และยังให้การว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5064 กทม.เป็นรถของปลัดหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ จ.สงขลาที่ชิงมาขับไปทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อทำลายหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปชี้จุดที่นำรถไปทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำซึ่งยังมีร่องรอยล้อรถที่พุ่งลงไปในอ่างเก็บน้ำ และประสานนักประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ไปงมหารถเก๋งซึ่งพบว่าจมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 7 เมตร และลากขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำ
พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จาการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้มีไม่ถึง 10 คน ไม่ใช่ 20 คน ตามที่ปลัดกับ อส.ให้การ ได้ออกหมายจับ 5 คน และจับกุมได้แล้วบางส่วน เป็นกลุ่มค้ายาเสพติดใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และจากการสืบสวนไม่มีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและน่าจะปิดคดีได้ใน 1-2 วันนี้
สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 5 คน ถูกแจ้ง7 ข้อหา คือปลันทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ, เป็นอั้งยี่ , ช่องใจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปีนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณืและโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแห่งการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
