ลำน้ำพองเอ่อท่วมบ้านเรือน 220 หลังชาวบ้านบ่นอุบนักการเมืองหายหัว

เมื่อวันที่16 ต.ค.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านห้วยซัน ม. 4 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ริมน้ำพอง ถูกน้ำพองเอ่อท่วมอย่างหนักบ้านเรือน 220 หลังถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่ริมคลองชลประทาน ส่วนผู้ที่มีบ้านสองชั้นก็ต้องขนย้ายสิ่งของและเครื่องครัวขึ้นไปอยู่บนบ้านการสัญจรเข้าออกด้วยเรือส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็พบว่าชาวบ้านบางส่วนได้เดินลุยน้ำออกจากบ้านมารับถุงยังชีพยังจุดอพยพ  โดยอาศัยราวเหล็กแนวกั้นพนังลำน้ำพองเป็นที่ยึดและเดินออกมาระยะทางประมาณ 200 เมตร จากนั้นไปขึ้นสะพานไม้ ที่ชาวบ้านร่วมกันทำขึ้นเป็นทางเดินจากพนังกั้นลำน้ำพองมายังถนนสายเคียมห้วย โคกท่า ระยะทางแประมาณ 100 เมตร

นายสุธรรม สมปอง อายุ 58 ปี ชาวบ้านห้วยซัน ที่เอาถังแกสเดินลุยน้ำออกมายังจุดอพยพ เปิดเผยว่า น้ำท่วมในหมู่บ้านมาหลายวัน ยังโชคดีที่ไฟฟ้ายังใช้ได้ แต่ต้องขนเครื่องครัวขึ้นบนชั้นสองเพื่อทำกับข้าวกิน การนำถังแกสออกมาก็เพื่อเติมให้เต็มถัง เพราะถ้าแก๊สหมดจะทำให้ครอบครัวลำบากไปมากกว่านี้

ด้าน นางสุเมตรา พิมพ์มหา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 บ.ห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มีอาชีพร้อยพวงมาลัยขายและขายปลาสด ปลาแดดเดียวที่ตลาดแลงบ้านคำไฮ ปีนี้น้ำท่วมสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา จะลำบากในการเดินทาง เพราะน้ำขึ้นสูงทุกวัน และน้ำไหลเชี่ยวมากเป็นอันตราย โดยเฉพาะคนแก่และเด็ก ปีนี้น้ำมากกว่าปี 60 มวลน้ำเอ่อล้นเข้ามาถึงในบ้าน ชาวบ้านก็มีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อเอาตัวรอด และครอบครัวจะไม่ได้ลำบากอะไรมาก แต่ในส่วนของชาวบ้านห้วยซัน ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นมีหลายครอบครัว ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา  ทำไร่ หากินตามวิถีชีวิตชาวบ้าน ก็จะลำบาก เพราะต้องรอรับของแจก รอรับถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ทั้งนี้ ตัวเองกับครอบครัวไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เพราะขายของที่ตลาดสด จะซื้อกับข้าวกลับมาที่บ้านทุกวัน แต่จะลำบากในเรื่องของการเดินทางเข้าหมู่บ้าน เพราะไม่สามารถใช้รถได้ ต้องใช้เรือในการเดินทางเท่านั้น ซึ่งครอบครัวของตนเองก็มีเรือไว้ใช้สัญจรเตรียมพร้อมไว้ เพราะประสบการณ์ของคนที่นี่มีการปรับตัวทุกครั้งที่มีน้ำท่วม ในทุกๆวันจะออกจากบ้านเวลาบ่าย 2 โมง ไปขายพวงมาลัย และขายปลา จะกลับเข้าบ้านในช่วง 2-3 ทุ่ม  โดยจะนำข้าวของใส่เรือแล้วเดินเข้ามา แม้น้ำจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ไหลเชี่ยวแรง แต่การขายพวงมาลัย ขายปลาก็ยังทำได้ เพราะมีลูกค้าประจำสั่งซื้อไม่ขาดสาย ทำให้มีรายได้ ไม่มีผลกระทบเพราะรู้จักช่วยเหลือตัวเองก่อน ก่อนที่จะรอให้คนอื่นมาช่วย เฉลี่ยขายได้ตกวันละ 1,000 บาท ส่วนปลาขายได้ 2,000-3,000 บาท และยังขายในราคาก็ขายปกติ ไม่มีการขึ้นราคา

นางสุเมตรา กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากถึง ส.ส. และ ส.จ.ในพื้นที่ด้วยว่า ช่วยมาดูประชาชนในเขตตัวเองบ้าง เพราะตั้งแต่น้ำท่วมยังไม่เห็นหน้าเลย เวลามาหาเสียง มาทั้งพี่ทั้งน้อง แต่เวลาชาวบ้านห้วยซันถูกน้ำท่วม เดือดร้อนไม่เห็นมาเลย น้ำดื่มก็ยังไม่มีช่วยชาวบ้าน เห็นแต่ของหน่วยงานอื่น แต่ของ ส.ส.กับ สจ.ยังไม่เห็นมาเลย

Message us