เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 6 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมลุ่มน้ำพองในเขตอำเภออุบลรัตน์, น้ำพองและ อำเภอเมืองขอนแก่น โดยพบว่าน้ำพองได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนบางพื้นที่ ระดับน้ำเริ่มนิ่งและทรงตัว บางแห่งน้ำเริ่มเน่าเหม็น บางจุดระดับน้ำใกล้ล้นตลิ่งเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเสริมแนวคันดินเพื่อไม่ให้น้ำพองไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรในเขต อำเภอเมืองขอนแก่น
นายไกรสร เปิดเผยว่า จากการบินสำรวจอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์พบน้ำในอ่างอยู่ในระดับวิกฤติ โดยพื้นที่เหนือเขื่อนในเขตขอนแก่นและหนองบัวลำภู น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนทางเข้าหมู่บ้าน คาดภายในระยะ 5 วันนี้น้ำจะท่วมสูงขึ้นอีก 80 ซม. เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมและพายุโนรูในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลหลากเข้าจนเต็มความจุอ่างเก็บน้ำในวันที่ 2 ตุลาคม จนถึงปัจจุบันยังคงมีมวลน้ำไหลเข้าถึง 187 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ระบายออกได้เพียง 41 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีระดับน้ำ 3,010 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 124 เกินระดับเก็บกัก 1.49 เมตร เกินความจุ 578.93 ล้าน ลบ.ม.
“จากการคาดการณ์ยังคงมีปริมาณน้ำในลุ่มน้ำพรม-เชิญ ลำน้ำพอง และลำพะเนียง รวมถึงน้ำที่หลากในพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ มากกว่าวันละ 150 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นมวลน้ำรวม 800-1,000 ล้าน ลบ.ม. จะส่งผลให้ระดับน้ำเขื่อน อุบลรัตน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.84 เมตร ในวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งเป็นระดับวิกฤติที่มวลน้ำจะไหลล้นคันดินด้านเหนือเขื่อน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยเขื่อน จำเป็นต้องระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ วันที่ 6 ตุลาคา ระบายวันละ 41 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 7 ตุลาคม ระบายน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 8 ตุลาคม ระบายน้ำวันละ 50 ล้าน ลบ.ม. จึงขอแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ใต้เขื่อนเตรียมพร้อมอพยพขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินขึ้นที่สูง”นายไกรสรกล่าว
