เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พลโท นรธิป โพยนอก หรือ “แม่ทัพยูร” แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ซึ่งเพิ่งย้ายจากกองทัพภาคที่ 1 มารับภารกิจสำคัญในการ “สยบไฟใต้” ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในวันแรก เพื่อเข้าพบปะผู้นำศาสนาและชุมชนทั้งพุทธและมุสลิม โดยมี พล.ต.กรกฏ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4, พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
ภารกิจแรก แม่ทัพยูรได้เดินทางไปยัง วัดประชุมชลธารา ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี เข้านมัสการ พระธรรมวัชรจริยาจารย์ (อ่อน ทนฺตจิตฺโต) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา พระผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนและพี่น้องมุสลิมในพื้นที่
พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติที่มีเมตตาและส่งเสริมความเข้าใจระหว่างศาสนา เคยกล่าวไว้ในวันฉลองอายุวัฒนมงคลว่า ความสมัครสมานสามัคคีของชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม เปรียบเสมือนแม่น้ำหลายสายที่ไหลมาบรรจบกัน เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความปรองดองในสังคมพหุวัฒนธรรม
จากนั้น แม่ทัพยูรได้เดินทางไปนมัสการ พระโสภณคุณาธาร เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส และเจ้าอาวาสวัดทองดีประชาราม (วัดท่านแดง) อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อแสดงความเคารพและรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในพื้นที่ชายแดนใต้
ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้เข้าพบ นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และคณะกรรมการอิสลามฯ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อแนะนำตัวและหารือแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างรอบด้าน ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง
พลโทนรธิป ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบปะว่า นโยบายของตนไม่มีอะไรพิเศษ เป็นไปตามแนวทางของผู้บัญชาการทหารบกและรัฐบาล ที่มุ่งสร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ เราทุกคนจะร่วมกันดูแลพี่น้องทุกศาสนาให้มีความสุข อยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย และขับเคลื่อนงานเพื่อความมั่นคงของประเทศ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกของ “แม่ทัพยูร” ในการสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสานต่อภารกิจสร้างสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน
ข่าว/ภาพ : แวดาโอ๊ะ หะไร ผู้สื่อข่าวจังหวัดนราธิวาส