เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองกำลังในสามจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ กองร้อยทหารพรานที่ 4214 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 จังหวัดปัตตานี, กองร้อยทหารพรานที่ 3306 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 จังหวัดยะลา และกองร้อยทหารพรานที่ 4802 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 จังหวัดนราธิวาส หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บและเกิดความสูญเสีย ทั้งต่อชีวิตและขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และรับฟังการรายงานความคืบหน้าคดีจากผู้บังคับหน่วย รวมถึงหารือแนวทางรับมือและป้องกันเหตุลักษณะเดียวกันในอนาคต พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติงานภายใต้ แผนพิทักษ์กำลังพล ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในการปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ด่านหน้า
“แผนพิทักษ์กำลังพลไม่ใช่แค่คำสั่ง แต่คือหลักคิดในการทำงานทุกวัน เราต้องทำให้มั่นใจว่า ทุกนายที่ออกปฏิบัติหน้าที่ จะได้กลับมาอย่างปลอดภัย หนึ่งชีวิตของกำลังพลทุกนายมีคุณค่า คือสิ่งที่กองทัพต้องปกป้องอย่างที่สุด ซึ่งแผนดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่ด้านยุทธวิธี การข่าว การเตรียมกำลัง การซักซ้อมก่อนปฏิบัติ ไปจนถึงระบบสนับสนุนเมื่อเกิดเหตุ เพื่อยกระดับความพร้อม และลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังสั่งการให้แต่ละหน่วย ประเมินและปรับปรุงแผนลาดตระเวน เส้นทางเคลื่อนย้ายกำลัง และรูปแบบการปฏิบัติการให้รัดกุมยิ่งขึ้น เน้นย้ำว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องไม่เงียบหายไปโดยไม่มีบทเรียน แต่ต้องนำมาพัฒนาให้การทำงานดีขึ้น ทั้งด้านยุทธวิธี การข่าว และการดูแลสวัสดิการกำลังพล
นอกจากนี้ ยังได้เน้นให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ดูแลลูกน้องเสมือนคนในครอบครัว สร้างความใกล้ชิดและความไว้วางใจภายในทีม สั่งการให้หน่วยด้านความมั่นคงและงานข่าว เร่งติดตามเบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด อีกทั้งให้ทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทบทวนแนวทางการปฏิบัติงาน และยกระดับมาตรการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงเป็นไปอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
