รัฐ-ชาวบ้านรวมพลังยืนหยัดสู้กลุ่ม BRN ที่หวังหยุดศก.ชายแดนใต้

ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่ความไม่สงบยังคงเป็นเงาตามตัว การทำธุรกิจและใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่สำหรับบริษัท ไพร์ซ ออฟ วู้ด กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขนาด 7.5 เมกะวัตต์ ณ หมู่ที่ 9 ตำบลกายู คละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ทำธุรกิจ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่หยั่งรากลึกอย่างแท้จริง เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงและวางระเบิดทรัพย์สินของโรงงานแห่งนี้ ซึ่งปกติแล้วทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เศษไม้) เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังที่ซับซ้อนของการก่อเหตุในครั้งนี้ว่า นี่ไม่ใช่เพียงการทำลายทรัพย์สินธรรมดา แต่เป็นการกระทำเชิงยุทธศาสตร์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ (ผกร.) เพื่อทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ และขัดขวางไม่ให้นายทุนจากภายนอกเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในจังหวัดชายแดนใต้ (ปาตานี) ซึ่งเป็นแนวทางการต่อสู้ที่สำคัญของกลุ่ม BRN

นอกจากนี้ การก่อเหตุยังเป็นการตอบโต้ของกลุ่ม ผกร. ต่อปฏิบัติการเชิงรุกของฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมและทำลายโครงข่ายกลุ่ม ผกร.หน้าใหม่ได้เป็นจำนวนมาก ขณะที่จุดเกิดเหตุอยู่ติดกับชายแดนไทย-มาเลเซีย ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายบางส่วนได้ลักลอบข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อร่วมก่อเหตุและหลบหนีไปยังพื้นที่ฝั่งมาเลเซียหลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการ

แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความเสียหายอย่างหนัก แต่พนักงานกว่า 50 ชีวิต ซึ่ง 95% เป็นชาวไทยมุสลิม และ 5% เป็นชาวไทยพุทธที่ล้วนเป็นคนในพื้นที่ ก็ยังคงเดินทางมาทำงานในวันรุ่งขึ้นด้วยภารกิจที่แตกต่างออกไป นั่นคือ “การเก็บกวาดความเสียหาย” เพื่อให้โรงงานสามารถกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง


แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ การยืนหยัดของบริษัทที่ยังคงจ้างงานลูกจ้างอย่างปกติ เพื่อให้พวกเขามีรายได้และสามารถดูแลครอบครัวได้ต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างโรงงานกับชุมชน และความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในท้องถิ่น

เสียงจากใจลูกจ้างเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความสำคัญของโรงงานแห่งนี้ โดยตัวแทนลูกจ้างรายหนึ่งกล่าวว่า “การจ้างงานของบริษัททำให้ครอบครัวเขามีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าหากไม่มีบริษัทการจ้างงานคนในพื้นที่ก็จะไม่มี ก็อยากให้เห็นใจชาวบ้านในพื้นที่ด้วย”

ทันทีหลังเกิดเหตุ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้แสดงความห่วงใยและลงพื้นที่ทันที โดยนายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ศอ.บต. ได้เป็นตัวแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เดินทางไปร่วมตรวจสอบความเสียหายด้านทรัพย์สิน และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจแก่ผู้แทนบริษัทฯ และพนักงาน ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ยังมีนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

คณะหัวหน้าส่วนราชการได้พูดคุยกับผู้บริหารของโรงงานถึงข้อมูลการเกิดเหตุ พร้อมให้คำแนะนำด้านมาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ และยืนยันการให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งการดำเนินการที่รวดเร็วนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐที่จะร่วมกันดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างแท้จริง

นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต.กล่าวยืนยันว่า “มาให้กำลังใจผู้ประกอบการ และมาสร้างความมั่นใจกับผู้ประกอบการ ภาคเศรษฐกิจ ทางภาครัฐจะดูแลเรื่องของการขับเคลื่อนงานเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ จะเกิดอะไรขึ้นเราไม่ทิ้งกัน ขอให้มีความเชื่อมั่นว่าทุกหน่วยจะเข้ามาดูแล และสิ่งที่จะเกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะโรงงาน สิ่งที่เราจะดูแลรวมไปถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชน อย่างที่โรงงานแห่งนี้พ่อแม่พี่น้องและประชาชนรอบๆ ข้างโรงงานมาทำงาน 50 กว่าคน ในสิ่งที่ภาครัฐทำวันนี้เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่องและมีการขยายผลต่อไป” พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่าในเรื่องของการเยียวยา ซ่อมสร้าง และฟื้นฟูนั้น ภาครัฐจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

เรื่องราวของโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้จึงเป็นมากกว่าความเสียหายทางธุรกิจ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดของชุมชนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข และยังแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง รวมถึงการทำงานของภาครัฐที่จะไม่ทอดทิ้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เมื่อสายไฟที่เคยส่องสว่างดับลง…แต่จิตใจของคนในพื้นที่กลับยิ่งเปล่งประกายด้วยความหวังและความสามัคคี

เรื่อง/ภาพ : นูอารีซ๊ะ ยะยือริ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนราธิวาส