
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยว่า “ธนาคารที่ดิน” ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม มุ่งเน้นให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน มีที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน นั้น ตนได้มอบหมายให้ นายสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ติดตามผลการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ใช้ประโยชน์และทำสัญญาเช่าซื้อที่ดิน ภายใต้ “โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน” ณ วิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา สมาชิก 69 ครัวเรือน เนื้อที่ 150 ไร่
นายสุทธิรักษ์ เปิดเผยว่า สมาชิกส่วนใหญ่ประสบปัญหาไม่มีที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน สืบเนื่องจากการดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์ และรถไฟรางคู่ หลังจากจัดสรรที่ดินให้แล้ว จึงบูรณาการการทำงานร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) สนับสนุนทุนสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้ “โครงการบ้านมั่นคงชนบท” อันเป็นการส่งเสริมด้านสวัสดิการและคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน และถือเป็นโครงการนำร่อง ก่อนที่จะขยายผลต่อไป โดยมีเป้าหมาย 15 พื้นที่ ใน 4 ภูมิภาคของประเทศ

นายธนโชติ ลีส้มซ่า ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า “คนในพื้นที่มีปัญหาไม่มีที่อยู่อาศัยที่ทำกิน ยากจน หาเช้ากินค่ำ เมื่อมีโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟรางคู่เข้ามา เราโดนขับไล่ เลยรวมกลุ่มกันหาที่ดินแล้วไปเสนอขอความช่วยเหลือจาก ”ธนาคารที่ดิน“ เมื่อเรามีที่ดินของตัวเอง มีความสุขกินอิ่มนอนหลับ แม้จะเจอปัญหาดินเสื่อมโทรมก็พยายามฟื้นฟูพัฒนา ปลูกผักผลไม้กินเอง เลี้ยงไก่ไข่ กบ ปลาหมอ ซึ่ง ”ธนาคารที่ดิน“ เข้ามาจัดอบรมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นำมาใช้ได้จริง และยังหาหน่วยงานต่าง ๆ มาสอนมาให้ความรู้ทุกอย่าง ทั้งการทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ ถ้าไม่มี ”ธนาคารที่ดิน“ มาช่วยคงไม่มีที่อยู่อาศัยแบบนี้ ”ธนาคารที่ดิน“ ช่วยเหลือนคนจนจริง ๆ

นายธงชัย โพธิ์สว่าง ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวเสริมว่า “พวกเราโชคดี ต้องขอบคุณ ‘ธนาคารที่ดิน’ ทำให้มีที่อยู่ที่อาศัยที่ทำกิน ‘ธนาคารที่ดิน’ ถือเป็นหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือประชาชนเกื้อกูลให้คนในสังคมมีที่อยู่อาศัย นอกจากนั้นยังเข้ามาอบรมพัฒนาเรื่องอาชีพ การพัฒนาที่ดิน และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเหลือด้วย โดยเฉพาะการอบรมเรื่องหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทพื้นที่ของตัวเอง รู้จักแบ่งปันกัน พึ่งพากัน ช่วยกันทำมาหากิน ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นฐานรากของประเทศไม่มีที่ทำกิน ‘ธนาคารที่ดิน’ จึงเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ”

นางคำไข ชนะมาร สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า “เมื่อก่อนมีอาชีพรับจ้าง เร่ร่อนเช่าบ้านอยู่ย้ายไปเรื่อย ๆ พอมีโครงการรถไฟรางคู่เข้ามาก็ต้องย้ายที่อยู่ งานที่เคยทำก็ต้องเลิก รู้จัก ‘ธนาคารที่ดิน’ จากสมาชิกเครือข่ายชุมชนและเข้ามาช่วยเหลือ พูดไม่ออกดีใจมาก ได้ย้ายเข้ามาอยู่กับหลาน ๆ สภาพบ้านอยู่กันตามมีตามเกิด ฝนตกหนักหลังคารั่วก็นั่งกอดกันกับหลานลำบากมาก พยายามทำสวนทำไร่เล็ก ๆ น้อย มีหลานคอยช่วย ปลูกพืชผักสวนครัวกินเองและปลูกดาวเรืองส่งขาย ทำริบบิ้นพวงมาลัยส่งร้านดอกไม้เป็นอาชีพเสริม ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมีบ้านก็ได้มีบ้าน แก่ขนาดนี้แล้วคงไม่มีโอกาส ขอบคุณ ‘ธนาคารที่ดิน’ ทำให้ชีวิตดีขึ้นสบายขึ้น ทุกวันนี้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ลูกหลานจะได้มาอยู่พร้อมหน้ากันในบ้านและที่ทำกินของตัวเองดีใจมาก”

นายปิยะวิทย์ บุญถือ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า “เมื่อก่อนชีวิตลำบากพาครอบครัวเร่ร่อนหาปลาเลี้ยงหลานตามเขื่อนทั่วนครราชสีมาและชัยภูมิ พอทราบว่ามีโครงการช่วยเหลือด้านที่ทำกินของ ‘ธนาคารที่ดิน’ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการ จนได้รับการช่วยเหลือดีใจมาก ๆ พาภรรยา ลูกหลานมาอยู่รวมกัน เริ่มต้นได้ทุนปรับปรุงพื้นที่ สร้างบ้านพออยู่ได้ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกผัก รับจ้างขายของเลี้ยงครอบครัว ‘ธนาคารที่ดิน’ ยังส่งไปอบรมศาสตร์พระราชา ร่วมถึงปี 2568 พอช. สนับสนุนทุนสร้างบ้าน แทนหลังเก่าทรุดโทรม ต้องขอขอบคุณ ‘ธนาคารที่ดิน’ และ พอช. และหน่วยงานราชการทุกหน่วยที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนครับ”

นายเรืองศิลป์ วงศ์บุญทิวา ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า “ที่นี่เราเป็นศูนย์เรียนรู้การส่งเสริมดำเนินการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องการทำบ้านดิน การทำอีเอ็มบอล และน้ำส้มควันไม้ โดยมีผู้สนใจทั้งส่วนราชการท้องถิ่นมหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป ที่แห่งนี้เรานำศาสตร์พระราชา มาปรับใช้ เรื่องความเพียงพอ ความมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิต พัฒนาอาชีพ และพื้นที่การเกษตร ตลอด 5 ปี ได้ขยายผลแก่เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่ เลี้ยงกบในกะละมัง เลี้ยงปลา การปลูกไม้ผล ในอนาคต ‘บ้านดิน’ จะพัฒนาเป็นโฮมสเตย์ โดยเบื้องต้นมี 19 หลัง ส่วนบ้านมั่นคงชนบท ขณะนี้สร้างเสร็จแล้ว 20 หลัง ต้องขอขอบคุณ ‘ธนาคารที่ดิน’ และ พอช. เราสัญญาว่าพวกเราจะพัฒนาพื้นที่นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องเกษตรกรในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง”

นายสุทธิรักษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ธนาคารที่ดิน” เป็นหน่วยงานของรัฐที่จะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรผู้ยากจนให้สามารถเข้าถึงสิทธิในการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และเท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งนี้การดำเนินงานมุ่งสนองนโยบายรัฐบาล ‘เพื่อให้ประชาชนมีที่ทำกิน มีกินมีใช้ รายได้ยั่งยืน’