
ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นประธานมอบรางวัลและประกาศนียบัตร โครงการประกวด 1669 Young Content Creator ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “ประสบการณ์ 1669 บ้านฉัน” ให้แก่น้องๆ เยาวชนของทีมผู้ชนะและทีมผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 10 ทีม พร้อมด้วยภาคเอกชนที่ให้เกียรติร่วมให้การสนับสนุนของรางวัล เพื่อยกระดับเยาวชนที่ร่วมโครงการไปสู่การทำหน้าที่เป็นตัวแทนเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน สร้างความตระหนักให้กับประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งสร้างวัฒนธรรมสู่สังคมแห่งความปลอดภัยสืบต่อไป

การตัดสินรอบชิงชนะเลิศโครงการประกวด 1669 Young Content Creator ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “ประสบการณ์ 1669 บ้านฉัน” มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 30,000 บาท 4 รางวัล โดยรางวัลชนะเลิศ และรางวัล Popular Vote ได้แก่ ทีมศรีราชา โรงเรียนศรีราชา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม 1669 safe my life โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ ทีม B.K.W. Strong Power โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา และรางวัล Special Prize จาก “หมอสอง” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห เจ้าของเพจหมอสองท่องโลก หนึ่งในกรรมการตัดสิน ได้แก่ ทีม zenith three จากโรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3 ฉะเชิงเทรา และทีมวันหลัง จากโรงเรียนเมืองพัทยา 9

ในการนี้ คุณธนภรณ์ อัศวลิขิตสม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท อัลติเมท พลัส ซัพพลาย จำกัด ร่วมกับบริษัทฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้แทนบริษัทฯ สนับสนุนเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (AED) ยี่ห้อ Philips พร้อมตู้ มูลค่ากว่า 70,000 บาท นำไปติดตั้งที่โรงเรียนของน้องๆ เยาวชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมอบรมให้ความรู้การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานด้วยการ CPR และการใช้เครื่อง AED ให้กับคุณครูและนักเรียน และยังสนับสนุนเงินรางวัลให้กับทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 อันดับ 2 และ Popular Vote

นอกจากนี้ คุณอำนาจ ศรีจำเริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็บโซลูท โซลูชั่น จำกัด ยังได้เป็นตัวแทนมอบเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และคุณอภิญญา คูหาเรืองรอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนกระเป๋านักเรียนที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ เช่น ขวดพลาสติก PET ที่นำมาอัพไซเคิลใช้เทคโนลยีผลิตเป็นเส้นใยจากขวดพลาสติกมาผสมกับเส้นใยผักตบชวา ที่ได้จากการบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group ให้แก่น้องๆ เยาวชนทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ นอกจากนี้ กิจกรรมในวันประกาศผล น้องๆ เยาวชนทั้ง 10 ทีมยังได้โอกาสเข้าศึกษาดูงานระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ อันได้แก่ ศูนย์นเรนทร รถสื่อสารสั่งการเคลื่อนที่และดาวเทียม ห้องฝึกปฏิบัติการเสมือนจริง EMS Simulation Smart Helicopter และ Immersive Training และศูนย์สื่อการแพทย์ฉุกเฉิน EMS Media Center รวมถึงยังได้แรงบันดาลใจดีๆ จากแขกรับเชิญพิเศษ “คุณเป๊ป” เขมิกา สุขประสงค์ดี นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอีกด้วย

โครงการประกวด 1669 Young Content Creator ครั้งที่ 1 “ประสบการณ์ 1669 บ้านฉัน” เป็นกิจกรรมที่ สพฉ. เปิดโอกาสให้น้องๆ นักเรียนระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา เยาวชนรุ่นใหม่ อายุ 15-22 ปี ใน 3 จังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง เข้ามาร่วมประชันฝีมือในการผลิต Content ด้านการแพทย์ฉุกเฉินร่วมสมัย โดย สพฉ. ได้จัดการอบรมพัฒนาศักยภาพความรู้เกี่ยวกับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เบื้องหลังสายด่วน 1669 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง และการทำ Content ให้ปัง ให้แก่น้องๆ เยาวชนทั้ง 10 ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ให้น้องๆ ทั้ง 10 ทีม ได้นำความรู้ไปพัฒนาผลงานผ่านการจัดทำคลิปวิดีโอสั้นความยาวไม่เกิน 3 นาที พร้อมทั้งนำเสนอให้คณะกรรมการตัดสินรางวัลชนะเลิศในวันที่ 19 กันยายน 2568 ซึ่งคณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้ประกอบด้วย ผศ.ดร.ธงศักดิ์ชัย สายพระราษฎร์ รองเลขาธิการ สพฉ. “หมอสอง” นพ.นพรัตน์ รัตนวราห เจ้าของเพจหมอสองท่องโลก และคุณกตัณณ์ ธรรมวิจิตเดช ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณามือรางวัล

ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นความสนใจให้กับกลุ่มเยาวชนและประชาชนในชุมชน ได้หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การสังเกตอาการเจ็บป่วย และการแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 รวมถึงการเห็นความสำคัญในการติดตั้งเครื่อง AED ในโรงเรียน และสถานที่สาธารณะ รวมถึงการร่วมสนับสนุนจากภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงการส่งเสริมความรอบรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินผ่านกลุ่มเยาวชนในชุมชน ซึ่ง สพฉ. มุ่งหวังในการสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถเป็นสื่อกลางเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที อีกทั้งยังร่วมกันสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และหน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ ซึ่งในปีต่อไป สพฉ. มีแผนจะขยายโอกาสการเข้าร่วมกิจกรรมให้กับเยาวชนทั่วประเทศผ่านเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนต่อไป