“จุรินทร์”ประกาศจุดยืนปชป.ชัดเจน”ไม่เอาล้มเจ้า-ไม่เอายาเสพติด”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ซึ่งดูแลภาคกลาง และได้ร่วมกิจกรรม“จุรินทร์ ออนทัวร์” มาที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายชวพล วัฒนพรมงคล นักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เขต 2 นายภูดิส แก้วตระกูลโชติ วิศวกรหนุ่ม อดีตรองนายก อบต.ท่าทราย เขต 3 นายธนวัฒน์ ทองโต (สจ.ช้าง) เป็นทนายความ และ เขต 4 นายนิติรัฐ สุนทรวร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เขต 3

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์มีความรู้จักมักคุ้นกับคนในพื้นที่มาเป็นเวลานาน จึงได้เตรียมการเรื่องพื้นที่โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่เป็นการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียว นำคะแนนพรรคกับคะแนนผู้สมัครมามัดรวมกันเป็นข้าวต้มมัด แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า จะแยกเป็นบัตร 2 ใบเพราะเป็นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่แก้ไขเสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ให้เสรีภาพกับประชาชนในการเลือกคนกับพรรคได้

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังได้เตรียมนโยบายไว้ชัดเจนแล้ว โดยในภาพรวมเราจะมุ่งหน้าทำงานทั้งด้านการเมืองและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน ไม่แยกเฉพาะการเมืองทิ้งเศรษฐกิจ หรือทำแต่เศรษฐกิจทิ้งการเมือง เพราะเศรษฐกิจกับการเมืองจะต้องเดินไปด้วยกัน เวลาแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ต้องแก้ปัญหาการเมืองไปด้วย ฉะนั้นนโยบายทางการเมืองของประชาธิปัตย์จึงมีจุดยืนชัดเจน คือยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนั้นประชาธิปไตยที่ประชาธิปัตย์ต้องการเห็น ก็จะต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ประชาธิปไตยท้องอิ่ม” เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากทางเศรษฐกิจได้ภายใต้กลไกการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนล้มเจ้านั้น ประชาธิปัตย์ไม่เอา

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสมุทรสาคร จะต้องเดินหน้าด้วยเศรษฐกิจ 3 ขา ขาที่ 1 อุตสาหกรรม เพราะเป็นตัวจักรขับเคลื่อนที่สำคัญทางเศรษฐกิจของสมุทรสาคร ขาที่ 2 เกษตรกรรม มีความสำคัญกับชาวสมุทรสาครโดยเฉพาะบ้านแพ้วซึ่งปลูก มะพร้าว ลำไย กล้วยไม้ มะนาว และมีพืชผลการเกษตรอื่นๆ ที่เราจะทิ้งฐานการเกษตรไม่ได้ เพราะยังทำเงินให้เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัด ส่วนขาที่ 3 คือ การเดินหน้าด้วยการประมง ภายใต้หลักคิดของประชาธิปัตย์คือการพื้นฟื้นประมงกลับคืนมาให้เจริญเติบโตก้าวหน้าไปด้วยกันได้ ทั้งประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ โดยรูปธรรมที่เกิดขึ้นในอนาคต คือ การแก้ไข พ.ร.ก.ประมง ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน เนื่องจากมีความเคร่งครัดจนทำให้ธุรกิจประมงเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แม้เราจะยอมรับกติกา IUU แต่ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมกับประเทศไทย และไม่มีผลในการบั่นทอนกิจการการประมงของประเทศด้วย ซึ่งเรื่องนี้มีจุดสมดุลของมันอยู่ ดังนั้นในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า จึงหวังว่าพี่น้องประชาชนจะสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทุกคน และให้เราปักธงประชาธิปัตย์ในจังหวัดสมุทรสาครได้อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มีเสียงจากชาวบ้านที่เข้าร่วมการเปิดตัวผู้สมัคร ได้ตะโกนให้กำลังใจ นายจุรินทร์ และผู้สมัครของพรรค ว่า “ประชาธิปัตย์จงเจริญ ขอให้ท่านได้เป็นนายก เพื่อมาฟื้นประมงสมุทรสาคร” ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง

จากนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา เราก็ได้ ส.ส. มาอย่างต่อเนื่องหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่นายณรงค์ สุนทรวร นายอเนก ทับสุวรรณ มาถึง น.ต.สุธรรม ระหงส์ มาจนถึง นายนิติรัฐ สุนทรวร เพียงแต่ครั้งที่แล้วเราเว้นไปครั้งเดียว แต่เที่ยวหน้าก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีโอกาส การเปิดตัวครบทั้ง 4 เขตในวันนี้ถือว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกๆ ที่มีความพร้อมเปิดตัวครบ

“เราก็มั่นใจว่าเสียงตอบรับจากประชาชนมีแน่นอน และมั่นใจว่าเรามีโอกาสที่จะปักธงได้อีกครั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร เพราะชาวบ้านกับเรามีความสัมพันธ์กันมานาน นายอเนก ทับสุวรรณก็ยังอยู่กับพรรค และสมาชิกของเราก็สนับสนุนอยู่ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ๆ ที่เดินเข้ามาเป็นสมาชิกก็มีจำนวนมากที่เข้ามาช่วยกัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเทศไทยยามนี้ต้องการ และต้องการเห็นความชัดเจนในรายละเอียดของนโยบายที่จะตามมาว่า ประชาธิปไตยท้องอิ่มประกอบด้วยอะไรบ้าง จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และทำให้คนไทยทั้งประเทศท้องอิ่มขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น นี่คือจุดยืนที่เราประกาศชัดเจน และจุดยืนประชาธิปัตย์ที่เราก็แสดงออกด้วยการพูดจามาก่อนหน้านี้ก็คือ เรายึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และที่สำคัญคือ ไม่เอาล้มเจ้า ไม่เอายาเสพติด ซึ่งเป็นจุดทีคิดว่ามีความสำคัญ และสังคมก็ต้องการเห็นการเดินหน้าที่มีความชัดเจนในสิ่งเหล่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศจุดยืนลักษณะนี้จะเป็นการแบ่งข้างประชาชนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่ได้แบ่งข้างหรอก แต่เป็นการแสดงจุดยืนในทางการเมืองที่พรรคการเมืองต้องมีความชัดเจนในเรื่องจุดยืนทางการเมือง

“สิ่งที่เราทำทุกวันนี้คือการเชื่อมโยงคนทุกรุ่น ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น แต่จุดแข็งประชาธิปัตย์คือการเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น แม้แต่วันนี้ที่สมุทรสาคร ก็มีทั้งรุ่นอาวุโส มีทั้งคนที่มั่นคงแน่นเหนียวอยู่กับพรรคมาตั้งแต่อดีต มีคนรุ่นกลางที่เป็นนักธุรกิจ ทำการค้า การเกษตร และมีเด็กรุ่นใหม่ๆ หลายคน การเชื่อมโยงนี้เป็นสิ่งที่เราทำอยู่ในดีเอ็นเอของความเป็นเราอยู่แล้ว เพราะนี่คือจุดแข็งของประชาธิปัตย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

Message us