เมื่อวันที่18 ต.ค.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ชี้แจงว่า จากกรณีที่ นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ว่าส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย จะไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย รอแค่ขั้นตอนเอกสารนั้น ตนเองได้สอบถามจาก ส.ส.พรชัย แล้ว ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้เป็นการให้สัมภาษณ์ แต่เป็นการนั่งพูดคุยกับนักข่าวที่สนิทสนมกัน ปรับทุกข์ บอกเล่าเรื่องราวอนาคตทางการเมืองให้ฟังว่าจะเอาอย่างไร คงเป็นเพราะว่ามีการวิเคราะห์ว่า ส.ส.พรชัย จะไปอยู่พรรคเพื่อไทย ได้อย่างไร เพราะไปทับซ้อนกับคนของพรรคเพื่อไทยที่มีการเปิดตัวไปแล้ว ซึ่งส.ส.พรชัย เลยเล่าเพื่อให้นักข่าวฟัง ไม่ได้เป็นการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ประเด็นต่อมาคือ อนาคตของพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป เพราะเราไม่ได้มีการยุบพรรค เพียงแต่ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารสิ้นสภาพเนื่องจากตนเองซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ลาออกเท่านั้นเอง แล้วเราก็ตั้งหัวหน้า เลขา และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มาดำเนินกิจกรรมตามนโยบายของพรรคเศรษฐกิจไทย ตามกฎหมายพรรคการเมืองตามปกติ
“ในวันที่มีการประชุมที่พะเยา ผมได้กราบเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่า นี่เป็นขั้นตอนแรกของ สมาชิกพรรคที่การลาออกจากกรรมการบริหารพรรค จากนี้ต่อไป ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทยทั้งหมด จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองอย่างไร เรายังไม่ได้คิด เพราะยังมีเวลาอีกพอประมาณ หากใกล้ๆวันหรือสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เราจะมีการประชุมกันเพื่อหารือและลงมติกันว่าเราจะเลือกอนาคตทางการเมืองของเราอย่างไร ที่สำคัญคือเราไม่เคยระบุว่าเราจะอยู่ไหน และเราจะไปไหน มีเพียงการคาดเดาของสื่อมวลชนเท่านั้น จึงเรียนข้อเท็จจริงให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ทราบตามนี้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่าร.อ.ธรรมนัส ยังหาพรรคใหม่ไม่ได้ เนื่องจากมีแรงต้านภายในจากพรรคที่ ร.อ.ธรรมนัส จะไปอยู่ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย แม้ร.อ.ธรรมนัส มีส.ส.เพื่อไทยที่เป็นฐานสนับสนุนอยู่ส่วนหนึ่งแต่มีแกนนำพรรคบางส่วนไม่เห็นด้วยเนื่องจากเกรงว่าหาก รับร.อ.ธรรมนัส เข้าไปจะเป็นผลเสียมากกว่า เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส ถูกกล่าวหาเป็นส.ส.สายสีเทา ซึ่งจะทำให้กระทบกับนโยบายบายต่อต้านการปราบปรามยาเสพติดของพรรคได้
ในขณะเดียวกันในส่วนพรรคพลังประชารัฐก็เคลื่อนไหวคัดค้านร.อ.ธรรมนัส เช่นกัน แม้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตรภายใต้การนำของนายสุริยะ จึ่งรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เนื่องจากเกรงว่า ร.อ.ธรรมนัส จะมานั่งเป็นเลขาธิการพรรคอีก และอาจจะมาถ่วงดุลอำนาจของกลุ่มสามมิตร ในพลังประชารัฐ
นอกจากนี้ยังมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนจะเดินหน้าอย่างไร แต่หากยังจะลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสมัย ร.อ.ธรรมนัส คงเติบโตยากในพลังประชารัฐ รวมถึงส.ส.ในพรรคเศรษฐกิจไทยทยอยแจ้งความประสงค์จะย้ายไปพรรคอื่นทำให้ ร.อ.ธรรมนัส เหลือส.ส.ในมือไม่ถึง 10 คน จึงทำให้ร.อ.ธรรมนัส ไร้พลังต่อรอง จึงยังหาพรรคสังกัดไม่ได้ และมีแนวโน้วที่จะกลับไปฟื้นพรรคเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง
