ปภ.ระดมเครื่องสูบน้ำ 24 ชม.ช่วยอยุธยา–ปทุมธานี พายุ “แมตโม”จ่อกระหน่ำไทย

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังคงมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังหลายจุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำจากตอนบน ทำให้การระบายน้ำลงทะเลเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะคอขวด ทำให้การไหลของน้ำช้ากว่าปกติ

ปภ. ได้เร่งระดมเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบหนักในอำเภอบางบาลและอำเภอพระนครศรีอยุธยา มีประชาชนเดือดร้อนรวมกว่า 3,054 ครัวเรือน 8,249 คน

ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี ได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมอุปกรณ์สนับสนุน อาทิ รถผลิตน้ำดื่ม 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล 1 คัน รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองสระบัวไปยังคลองขวด ระยะทางประมาณ 300 เมตร ก่อนลงสู่แม่น้ำลพบุรี รวมถึงผลิตและแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดให้ผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง

ในส่วนของ จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอเมืองปทุมธานีและอำเภอสามโคก ศูนย์ ปภ. เขต 1 ปทุมธานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบสูงถึง 28,000 ลิตรต่อวินาที ที่บริเวณประตูระบายน้ำท้องคุ้ง ตำบลเชียงรากใหญ่ เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ลดระดับน้ำในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกัน ปภ. ได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “แมตโม (Matmo)” ในทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังขึ้นเป็น พายุไต้ฝุ่น ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนเหนือ และคาดว่าจะขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้งของจีนในวันนี้ แม้พายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่อิทธิพลของพายุจะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้แรงขึ้น ส่งผลให้ ตั้งแต่วันที่ 5–7 ต.ค. 68 จะมีฝนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก

ปภ. จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและลุ่มน้ำต่าง ๆ พร้อมยืนยันว่าทุกศูนย์ ปภ. เขต ได้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมือเครื่องจักรไว้ประจำพื้นที่ พร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 2568 พบว่า ยังมีสถานการณ์อุทกภัยใน 16 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยภูมิ และฉะเชิงเทรา มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 102,051 ครัวเรือน 345,712 คน และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย