เมื่อวันที่ 13 กันยายน พระครูเกษมวาปีพิสัย รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก และรักษาการเจ้าอาวาสวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก แถลงความคืบหน้าการบริหารจัดการภายในวัด หลังเข้ามารับหน้าที่แก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใสที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ในอดีต ย้ำแนวทางทำงานทุกขั้นตอนตรวจสอบได้ โปร่งใส และมุ่งคืนศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน
พระครูเกษมวาปีพิสัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งปรับปรุงพื้นที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถและพลับพลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีการจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด ติดตั้งประตูและกุญแจเข้าออกโบสถ์ เปลี่ยนระบบป้ายบริจาคให้อ่านเข้าใจง่าย โปร่งใส พร้อมจัดพื้นที่สำหรับวางดอกไม้ธูปเทียนให้สะอาดเป็นระเบียบ เพื่อความเหมาะสมในการสักการะ
นอกจากนี้ ได้วางระบบการกราบไหว้พระนางพญาเรือนแก้วอย่างรัดกุม เน้นความโปร่งใส โดยเฉพาะด้านการเงินที่ทุกบาททุกสตางค์เข้าสู่วัดโดยตรง ปัจจุบันมีรายได้กว่า 1,400,000 บาท นำไปใช้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ชำระค่าน้ำค่าไฟที่รวมกว่า 50,000 บาทต่อเดือน และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลางคืนเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้มาเยือน
“เรื่องในอดีตให้ถือว่าผ่านไป วันนี้เรามาเริ่มต้นใหม่ เป้าหมายคือทำให้วัดนางพญากลับมาเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้านอย่างแท้จริง” พระครูเกษมวาปีพิสัย กล่าวย้ำ
สำหรับงานแข่งเรือประเพณีประจำปีที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ทางวัดนางพญาได้จัดเตรียมพื้นที่จอดรถฟรีเพื่อรองรับประชาชน คาดว่าจะมีผู้เดินทางมาสักการะพระสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว และพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พลับพลาเป็นจำนวนมาก
ภายหลังการแถลงข่าว พระครูเกษมได้นำสื่อมวลชนชมสถานที่สำคัญภายในวัด อาทิ พระอุโบสถ พระสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว และ “พลับพลาหทัยนเรศวร 5 พระองค์” ที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมด้วยสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตริย์ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศรัทธาของชาวพิษณุโลก
ข่าว/ภาพ : นายชินวัฒน์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก
