นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้อภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมรัฐสภาในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลเขียนไว้ในนโยบายว่า จะสนับสนุนการทำประชามติและการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยฟังรับฟังเสียงพี่น้องประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเพื่อธำรงไว้ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ถือเป็นสิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอ แต่ตนขอฝากว่า “เมื่อท่านพูด เราจะฟัง เมื่อท่านทำ เราจึงจะเชื่อ”
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีเงื่อนไขซับซ้อน แก้ไขยาก ต้องพึ่งเสียง สว. ถึง 1 ใน 3 และเสียง สส.-สว. รวมกันเกินครึ่ง จึงไม่ง่ายที่จะผ่าน ที่ผ่านมาแม้มีความพยายามหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทั้งหมด อย่างไรก็ดี วันนี้ถือเป็น “โอกาสดี” เพราะนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งน่าจะช่วยให้เดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริง
“กรณีนายกฯมอบหมายให้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับงานด้านกฎหมายและการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอดีตนายบวรศักดิ์เคยร่างรัฐธรรมนูญยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ถูกนำมาใช้ สุดท้ายต้องไปพึ่งร่างของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ จนได้รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่แก้ไขได้ยากที่สุด นายบวรศักดิ์เคยกล่าวไว้ว่า ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ แต่ปรากฏว่า แป๊ะไม่ตามใจท่าน รัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ไม่ได้บังคับใช้ทั้งที่ดีกว่าฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และเมื่อปัจจุบันท่านก็มาลงเรือแป๊ะอีก แต่เป็นแป๊ะอนุทิน ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่”นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า หลังยุบสภาจะมีบัตร 4 ใบ คือใบแรกเลือกสส.เขต ใบที่ 2 เลือกสสบัญชีรายชื่อ ใบที่ 3 ลงประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และใบที่ 4 ถามว่าจะยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชาหรือไม่ บัตร 4 ใบมาใบละเดือนเพราะมีสัจจะวาจาว่า จะยุบสภาภายใน 4 เดือน ฉะนั้นจะยุ่งเหยิงพอควรจึงอยากถามว่านายกฯจะมีกุศโลบายอย่างไรทำให้การลงคะแนนของประชาชนทั่วทั้งประเทศ จะลงประชามติได้อย่างมีผลดีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปัญหาอื่นๆที่พ่วงมาทั้ง 4 ใบ
“อาถรรพ์ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นเรื่องที่ท้าทาย ผมอยากให้นายกฯอนุทิน และทีมงานได้ร่วมกันฝ่าฟันและถอนอาถรรพ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จ และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประชาธิปไตยไทยอย่างแท้จริง”นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
