
เมื่อวันที่ 20 กันยายน จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของอำเภอหล่มสัก และอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำป่าสัก จนทำให้น้ำในแม่น้ำป่าสักมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีมวลน้ำเดิมอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว จึงทำให้น้ำไหลเร็วและแรงมาก ส่งผลให้พนังกั้นน้ำแม่น้ำป่าสักในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่บริเวณตรงข้ามสวนดงตาล ได้พังทลายลงมา ถึงแม้ว่าเทศบาลได้นำกระสอบทราย และพลาสติกมาเสริมจนสูงขึ้นจากเดิมอีกกว่า 50 ซม. แล้วก็ตาม

แต่ด้วยที่ปริมาณน้ำมีจำนวนมาก ประกอบกับมีความรุนแรง จึงทำให้พนังกั้นน้ำพังระยะทางยาวประมาณ 10 เมตร กระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ชนิดที่ว่าชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว เพราะไม่คิดว่ากำแพงพนังกั้นน้ำจะพัง ทำให้ต้องมีการขนย้ายทรัพย์สินกันอย่างโกลาหล เพียงระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที น้ำก็ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมจนเต็มพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก

นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ปัญหา โดยพยายามที่จะปิดจุดที่พนังกั้นน้ำแตกให้เร็วที่สุด ขณะนี้กำลังเร่งระดมทั้งกำลังคนและเครื่องจักร เพื่อนำแบริเออร์มากั้นกระแสน้ำที่บริเวณพนังกั้นน้ำแตก และขอให้พี่น้องประชาชนในตลาด ให้ยกทรัพย์สินขึ้นสู่ที่สูงโดยเร็ว หากมีผู้ป่วยหรือผู้ป่วยติดเตียงให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว เพื่อดำเนินการช่วยเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย

นอกจากนั้น กระแสน้ำในแม่น้ำป่าสักยังได้พัดและกัดเซาะกำแพงรั้วของชาวบ้านหมู่ 8 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก พังเสียหาย ทำให้น้ำในแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวกว่า 200 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร แต่ชาวบ้านไม่ได้รับความเดือดร้อนมากนัก เนื่องจากเพิ่งเก็บข้าวของขึ้นสู่ที่สูงเมื่อ 2 วันก่อน เนื่องจากพนังกั้นน้ำในบริเวณดังกล่าวพัง ซึ่งขณะนี้ได้รับการซ่อมแซมแล้ว แต่ครั้งนี้น้ำได้เซาะกำแพงรั้วบ้านจนพังอีก

