เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศในตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ พบว่าพ่อค้าแม่ค้าหลายรายต่างพากันกังวล เพราะสมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ไม่สำเร็จ ระบบแจ้งให้ไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย บางรายไม่มีบัญชีกรุงไทยเลยไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวจะเสียโอกาสเข้าร่วมโครงการเหมือนร้านอื่น ๆ
แม่ค้าหลายคนบอกว่า อยากเข้าร่วมโครงการเพราะช่วงนี้ค้าขายยาก รายได้ลด ลูกค้าซื้อน้อยลง ถ้าได้เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” ก็น่าจะช่วยให้ขายดีขึ้น แต่ขั้นตอนการสมัครกลับยุ่งยาก ต้องเปิดบัญชีใหม่และไปยืนยันตัวตนถึงธนาคาร บางคนบอกว่าไม่มีเวลาหรือไม่ถนัดใช้มือถือสมัคร
นางสมพร ไชยชาติ แม่ค้าขายขนมไทย เล่าว่า “สมัครในมือถือแล้ว ระบบบอกให้ไปสแกนหน้ายืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย แต่เราไม่มีบัญชีเลย ก็ไม่รู้จะทำยังไง กลัวจะไม่ได้เข้าร่วม เพราะอยากขายของได้มากขึ้น เดี๋ยวนี้คนซื้อน้อย ขายแทบไม่หมดในแต่ละวัน”
ขณะที่ น.ส.ศิริลักษณ์ ขนเพ็ชรรัมย์ แม่ค้าขายหมูปิ้ง บอกว่า เคยเข้าร่วม “คนละครึ่ง” สมัยรัฐบาลลุงตู่ แอปฯ เป๋าตังเดิมก็ยังมีอยู่ แต่พอจะสมัคร “คนละครึ่งพลัส” ระบบกลับให้ไปยืนยันตัวตนใหม่ “ไม่รู้ทำไมของเก่าถึงใช้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ร่วมโครงการก็กลัวขายไม่ดี เพราะโครงการนี้ช่วยได้จริง ๆ”
พ่อค้าแม่ค้าหลายรายจึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่า อยากให้ลดขั้นตอนหรือทำให้สมัครง่ายกว่านี้ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเข้าถึงโครงการได้มากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เดินหน้าต่อได้
ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์