คลื่นใต้น้ำความร้อนของสถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ใกล้สุกงอมเต็มที่ หลังการประชุมเอเปค ปลายเดือนพ.ย. ฝีคงแตก ได้เห็นทิศทางระหว่าง”บิ๊กป้อม”กับ “บิ๊กตู่”ที่หันหลังแยกทางกันเดินค่อนข้างชัวร์ เพื่อไปลงแข่งกันเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งใหม่นี้ หลังจากที่ทั้งคู่ระหองระแหงไม่ลงรอยกันมาตลอดในระยะหลัง ทั้งเรื่องของการปรับครม. รวมถึงการรวบอำนาจของบิ๊กตู่
กระแสข่าววงในบอกว่า “บิ๊กป้อม” กับ “บิ๊กตู่” ได้คุยเคลียร์ใจกันแล้ว ตกลงจะจากกันด้วยดี โดย”บิ๊กป้อม”ยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในขณะที่”บิ๊กตู่”จะไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค”นั่งคุมบังเหียนให้อยู่ในเวลานี้
“เลือกตั้งครั้งหน้าตู่ไม่อยู่กับเราแล้วนะ” แหล่งข่าวระบุถึงคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้บอกส.ส.พลังประชารัฐบางคน เพื่อเช็กท่าทีว่าจะอยู่หรือจะตามบิ๊กตู่ไป
ในยามนี้ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐสับสนอลหม่านเช็กข่าวกันให้วุ่นใครจะไปอยู่กับใคร จนไม่มีสมาธิเข้าประชุมสภากัน
ทั้งนี้เบื้องต้นฝ่าย “บิ๊กตู่ “ประเมินกันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ส.ส.ประมาณ 60-70 ที่นั่ง โดยมาจากภาคใต้ 15 เสียง ภาคกลาง กลุ่ม”สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน 10 เสียงบวก กลุ่มสามมิตรของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”ประมาณ 15-20 เสียง กลุ่มมะขามหวานของ “สันติ พร้อมพัฒน์” ประมาณ 10 เสียง และจากพื้นที่อื่นๆและส.ส.บัญชีรายชื่อรวมกันอีกประมาณ20 เสียง เมื่อรวมกับเสียงส.ว.อีกจำนวนหนึ่ง จึงทำให้ “บิ๊กตู่”ไม่ลังเล ตีจากพลังประชารัฐ
ในขณะที่ฝั่ง”บิ๊กป้อม” ก็จะฮึดสู้เช่นกันโดยจะดึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จาก พรรคเศรษฐกิจไทย กลับมาอยู่พรรคพลังประชารัฐโดยล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส ได้แจ้งส.ส.ในสังกัด ให้เตรียมตัวเพื่อย้ายกลับพรรคพลังประชารัฐโดยคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนพ.ย. ซึ่งอาจจะเป็นวันที่24 พ.ย.นี้
ทั้งหมดนี้ต้องตามกันอย่ากระพริบ การเมืองยิ่งเข้าใกล้โหมดเลือกตั้งเต็มตัว ยิ่งร้อนแรง อนาคตพลังประชารัฐจะเป็นอย่างไร ใครจะยังอยู่กับบิ๊กป้อม หรือย้ายตามบิ๊กตู่ หลังการประชุมเอเปค คงจะได้รู้กัน
