
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำคณะอดีต สส.สุพรรณบุรีครบทุกเขตของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ นายสรชัด สุจิตต์ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ นายนพดล มาตรศรี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม และนายประภัตร โพธสุธน รวมถึงอดีตแกนนำพรรค อาทิ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรค พร้อมใจกันนำพวงดอกไม้สักการะอนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนก้าวสู่สนามการเมืองครั้งใหม่
การรวมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังทั้งหมดได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว และเตรียมสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม เวลา 12.00 น. โดยมีบุคคลสำคัญทางการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดสุพรรณบุรีที่ทำงานร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนามาอย่างยาวนานเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ นายอุดม โปร่งฟ้า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และนายอรรถพล สุวรรณศร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี

นายประภัตร โพธสุธน เป็นตัวแทนอดีต สส. กล่าวต่อหน้ารูปปั้นนายบรรหารด้วยน้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ ระบุว่า ตนและคณะเป็นผู้แทนสุพรรณบุรีที่อยู่คู่บุญบารมีกับนายบรรหารมายาวนานกว่า 50 ปี วันนี้ลูกหลานทุกคนมาด้วยความเคารพและความรัก เพื่อขอขมาในสิ่งที่อาจล่วงเกินหรือทำไม่ถูกต้อง พร้อมขออโหสิกรรมจากอดีตผู้นำทางการเมืองของจังหวัด
นายประภัตรกล่าวว่า การตัดสินใจ “ขอหยุดพรรคชาติไทยพัฒนาไว้ชั่วคราว” เป็นไปเพื่อเป้าหมายเดียวคือการทำหน้าที่ผู้แทนรัฐบาลให้ได้ เพื่อกลับมาช่วยเหลือประชาชนชาวสุพรรณบุรีอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมย้ำว่าการไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่การทอดทิ้งบ้านเกิด แต่เป็นการเพิ่มพลังทางการเมือง ก่อนจะกลับมาสานต่อเจตนารมณ์และพัฒนาพรรคชาติไทยพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา ให้สัมภาษณ์ว่า การทำงานของพรรคการเมืองขนาดเล็กตลอดกว่า 9 ปีที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้การเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะมี สส. 10 คน แต่ด้วยข้อจำกัดด้านอำนาจการบริหารและจำนวนรัฐมนตรี ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อประชาชนทำได้อย่างจำกัด

นายวราวุธกล่าวว่า วันนี้ทุกคนจึงตัดสินใจ “ออกเดินทางไปฝึกฝีมือในยุทธจักร” เพื่อสร้างความเข้มแข็งและศักยภาพในการทำงาน เปรียบเหมือนเส้นทางชีวิตของนายบรรหารที่ต้องออกจากสุพรรณบุรีตั้งแต่อายุ 18 ปี เพื่อเติบโตและกลับมาสร้างคุณูปการให้ประเทศชาติ
“ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด บ้านของเราคือสุพรรณบุรี การตัดสินใจครั้งนี้คือการเดินตามรอยเท้าของนายบรรหาร เพื่อกลับมาพัฒนาเมืองสุพรรณบุรีให้ดียิ่งขึ้น และทำงานให้คนไทยทั้งประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายวราวุธกล่าว
นายวราวุธย้ำว่า การขออนุญาตเดินบนเส้นทางการเมืองอีกสายหนึ่งภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย เป็นไปเพื่อสานต่อความฝันของนายบรรหาร ที่อยากเห็นคนสุพรรณบุรีมีความสามัคคี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด